การพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2
คำสำคัญ:
การพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล, ผู้บริหารสถานศึกษา, สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 และ 2) ศึกษาแนวทางและประเมินแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ 1) แบบสอบถามระดับสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ของการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 2) แบบสนทนากลุ่ม และ 3) แบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ของแนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 จำนวน 143 แห่ง กำหนดผู้ให้ข้อมูลได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 143 คน และผู้ทรงคุณวุฒิในการสนทนากลุ่ม จำนวน 9 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น
ผลการวิจัยพบว่า
1. ระดับสภาพปัจจุบันของสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.16, S.D. = 0.79) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน ระดับสภาพที่พึงประสงค์ของสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (
= 4.46, S.D. = 0.57) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน
2. ลำดับความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 เรียงลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นจากมากไปหาน้อย ได้แก้ 1) การสร้างสรรค์สื่อนวัตกรรมดิจิทัล 2) จริยธรรม และการแก้ปัญหาด้วยเครื่องมือดิจิทัล 3) ความปลอดภัยทางเทคโนโลยีดิจิทัล 4) การสื่อสารและสร้างเครือข่ายความร่วมมือดิจิทัล 5) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ 6) การรู้และเข้าใจดิจิทัล ตามลำดับ
3. แนวทางการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 ที่ได้จากการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) ทั้ง 6 องค์ประกอบได้แก่ การรู้และเข้าใจดิจิทัล การสร้างสรรค์สื่อนวัตกรรมดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การสื่อสารและสร้างเครือข่ายความร่วมมือดิจิทัล จริยธรรมและการแก้ปัญหาด้วยเครื่องมือดิจิทัล และความปลอดภัยทางเทคโนโลยีดิจิทัล ได้จำนวนทั้งสิ้น 12 แนวทาง ซึ่งผลการประเมินแนวทางการพัฒนาสมรรถะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 มีความเหมาะสมโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 86, S.D. = 0.35) และมีความเป็นไปได้โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.62, S.D. = 0.54)
เอกสารอ้างอิง
ธัญเทพ สิทธิเสือ. (2567). การพัฒนาสมรรถนะด้านการใช้งานดิจิทัลสำหรับบุคลากรทางการศึกษา เพื่อรองรับดิจิทัลไทยแลนด์. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, 18(3), 114-131.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น ฉบับปรับปรุงใหม่. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: บริษัท สุวีริยาสาส์น จ ากัด.
ผ่องพรรณ ตรัยมงคลกูล. (2543). การออกแบบการวิจัย. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
พิศเจริญ ต้นจำปา. (2566). แนวทางการยกระดับสมรรถนะดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ, 17(3), 132-145.
รัตนะ บัวสนธ์. (2556). การออกแบบการวิจัยเชิงผสมผสาน. วารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี, 2(1), 1-8.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). รายงานการศึกษา แนวปฏิบัติของการสร้างและส่งเสริมการรู้ดิจิทัลสำหรับครู. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2. (2567). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567. เข้าถึงได้จาก https://drive.google.com/file/d/ 116w6VSwScdKIX08sn4UzC_MJwbNEvsNi/view
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2567). คู่มือการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการ มจร บุรีรัมย์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น ไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของบรรณาธิการ