ศักยภาพของวุฒิภาวะทางอาชีพของนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการเกษตรมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเ์ พื่อศึกษาศักยภาพของวุฒิภาวะทางอาชีพ (Career Maturity) ของนักศึกษา
คณะเทคโนโลยีการเกษตร และเปรียบเทียบศักยภาพของวุฒิภาวะทางอาชีพของนักศึกษาโดยจำแนกตามระดับผล
การเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 4 คณะเทคโนโลยีการเกษตรมหาวิทยาลัยราชภัฏ
มหาสารคามจำนวน 139 คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณคา่ 5 ระดับแบบสอบถาม
มีค่าความเชื่อมันทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 และใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปวิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติที่ใช้ใน
การวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
(One-Way ANOVA)
ผลการศึกษาพบว่า ศักยภาพของวุฒิภาวะทางอาชีพของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะเทคโนโลยีการเกษตร
โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.45, S.D. = 0.53) และผลการเปรียบเทียบศักยภาพของวุฒิภาวะทางอาชีพ
พบว่า โดยรวมไม่มีความแตกต่างกันแต่เมื่อวิเคราะห์เป็นรายด้าน พบว่า มีความแตกต่างกัน ระหว่างเพศกับศักยภาพ
ด้านการเลือกอาชีพและด้านการตัดสินใจเลือกแผนการเรียน และเงินที่ได้จากผู้ปกครองกับศักยภาพด้านการตัดสินใจ
เลือกแผนการเรียนส่วนระดับผลการเรียนไม่มีความแตกต่างกันในระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
Article Details
ข้อกำหนดเบื้องต้นที่ผู้นิพนธ์(ผู้ส่งบทความ) ควรทราบ
1. ผู้นิพนธ์ที่ประสงค์จะลงตีพิมพ์บทความกับวารสาร ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป ให้ใช้รูปแบบใหม่ (Template 2563) โดยสามารถดูตัวอย่างได้ที่เมนู GUIDELINES
2. จะตีพิมพ์และเผยแพร่ได้ ต้องผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review)
3. การประเมินบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) เป็นแบบ Double Blind
4. การอ้างอิงบทความใช้หลักเกณฑ์ APA (American Psychological Association) คลิก
5. บทความถูกปฏิเสธการตีพิมพ์ ไม่ผ่านการประเมิน ผู้นิพนธ์ขอยกเลิกเองหรือชำระเงินก่อนได้รับการอนุมัติ ทางวารสารไม่มีนโยบายการคืนเงิน
เอกสารอ้างอิง
ไพบูลย์ บุญล้อม และวรากร ทรัพย์วิระปกณ์. (2555). การพัฒนาวุฒิภาวะทางอาชีพด้วยการปรึกษาเชิงจิตวิทยาทางอาชีพแบบกลุ่มสำหรับนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา . วารสารการศึกษาและพัฒนาสังคม, 8(1), 47-59.
นฤมล ตั้งประพฤติดี. (2553). ผลของโปรแกรมการเรียนรู้ด้วยตนเองที่มีผลต่อวุฒิภาวะทางอาชีพด้านเจตคติ.(วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพมหานคร.
สุรพงษ์ คงสัตย์ และธีรชาติ ธรรมวงค์. (2551). การหาค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา: นครราชสีมา.
Cronbach, L. J. (1951). Coefficient alpha and the internal structure of tests. psychometrika, 16(3),297-334.
Crites, J. O. (1981). Career counseling model methods. New York: Mc Graw-Hill.
Krejcie, R. V., and Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities.Educational and psychological measurement, 30(3), 607-610.
Likert, R. (1967). The method of constructing and attitude scale. In reading in Fishbein, M (Ed.),Attitude theory and measurement (pp. 90-95). New York: Wiley & Son.
Super, D. E. (1960). The psychology of career. New York: Harper and Row Publishers.
Super, D. E. (1990). Life space approach to career development – Incareer choice and development. San Francisco: Jossey – Bass.