การศึกษาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ 2) ศึกษาความต้องการจำเป็นของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ และ 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะคือ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน จำนวน 297 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิอย่างไม่เป็นสัดส่วน (Disproportionate Stratified random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบบสอบถามสภาพปัจจุบันของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .462-.961 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .962 แบบสอบถามสภาพที่พึงประสงค์ของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ มีค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง .484-.902 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .978 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 ศึกษาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล เป็นผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2) ค่าดัชนีการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น (PNIModified) ของสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 เรียงลำดับจากสูงสุดไปหาต่ำสุดคือ ด้านการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ด้านภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้านการสื่อสาร ด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการทำงานเป็นทีม และด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนา ตามลำดับ 3) แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในความปกติใหม่ ประกอบด้วย 3.1) ผู้บริหารสถานศึกษา ควรเปิดใจยอมรับความคิดเห็นบุคลากรทุกคน ที่มีความคิดใหม่ ๆ เป็นความคิดที่สร้างสรรค์งานการศึกษา 3.2) สถานศึกษาควรมีการจัดอบรมสัมมนาเกี่ยวกับนวัตกรรมการสอน ส่งเสริมการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อให้ครูทดลองใช้วิธีการใหม่ ๆ ผ่านการวิจัยในชั้นเรียน 3.3) ผู้บริหารสถานศึกษาควรสร้างวัฒนธรรมการสื่อสารที่เปิดเผยชัดเจนตรงไปตรงมา เลือกใช้ช่องทางการสที่สารที่เหมาะสมให้เข้ากับยุคปัจจุบัน 3.4) บุคลากรในสถานศึกษาควรใช้แพลตฟอร์มเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนับสนุนได้ง่ายสื่อสารโซเซียลมีเดีย ใช้เนื้อหาที่มีคุณภาพ 3.5) บุคลากรในสถานศึกษาควรร่วมกันตั้งเป้าหมายที่ทีมงานต้องการ พิจารณาบทบาทและความรับผิดชอบของสมาชิกในทีมให้ชัดเจน 3.6) สถานศึกษาควรจัดประชุมเพื่อให้บุคลากรสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวคิด และประสบการณ์ที่เกี่ยวกับงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อกำหนดเบื้องต้นที่ผู้นิพนธ์(ผู้ส่งบทความ) ควรทราบ
1. ผู้นิพนธ์ที่ประสงค์จะลงตีพิมพ์บทความกับวารสาร ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป ให้ใช้รูปแบบใหม่ (Template 2563) โดยสามารถดูตัวอย่างได้ที่เมนู GUIDELINES
2. จะตีพิมพ์และเผยแพร่ได้ ต้องผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review)
3. การประเมินบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) เป็นแบบ Double Blind
4. การอ้างอิงบทความใช้หลักเกณฑ์ APA (American Psychological Association) คลิก
5. บทความถูกปฏิเสธการตีพิมพ์ ไม่ผ่านการประเมิน ผู้นิพนธ์ขอยกเลิกเองหรือชำระเงินก่อนได้รับการอนุมัติ ทางวารสารไม่มีนโยบายการคืนเงิน
เอกสารอ้างอิง
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. สุวีริยาสาส์น.
ปวีณา รอดเจริญ. (2565). สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 จังหวัดนครปฐม [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.
พงษ์พิชญ์ นิรุตตินานนท์. (2564). ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนขยายโอกาสสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏ เทพสตรี.
ภิชาพัชญ์ โหนา. (2562). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาในยุคประเทศไทย 4.0 [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
ศักดิ์นรินทร์ ยาวิชัย. (2565). ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษากับการบริหารงานวิชาการ กลุ่มโรงเรียนสหวิทยาเขตระยอง 1 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยบูรพา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). แนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ. สำนักทดสอบทางการศึกษา.
อดุลย์ศักดิ์ ทองคำ. (2566). ความต้องการจำเป็นและแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในจังหวัดสกลนคร [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
อานันทชัย มานะดี. (2565). ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษากับการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษา ตามทัศนะของครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.