กองบรรณาธิการ  วารสารครุศาสตร์  ซึ่งเป็นวารสารฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้รับผลงานเกี่ยวกับบทความวิชาการ บทความวิจัย หรือบทวิจารณ์หนังสือในสาขาศึกษาศาสตร์/ครุศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้องจากทุกท่านทุกหน่วยงาน เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารครุศาสตร์ โดยบทความต้องผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อยบทความละ 2 ท่าน  เพื่อความสะดวกในการพิจารณา  จึงขอแนะนำแนวทางการเตรียมต้นฉบับและการส่งต้นฉบับ  ดังนี้ 

ประเภทของบทความ
             1.  บทความวิชาการ  (Academic article)  หมายถึง  บทความที่เขียนขึ้นในลักษณะวิเคราะห์ วิจารณ์  หรือเสนอแนวคิดใหม่ ๆ จากพื้นฐานวิชาการที่ได้เรียบเรียงมาจากผลงานทางวิชาการของตนเองหรือของผู้อื่น หรือเป็นบทความทางวิชาการที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นความรู้สำหรับผู้สนใจทั่วไป  กล่าวถึงความเป็นมาของปัญหา  วัตถุประสงค์  แนวทางการแก้ไขปัญหา  มีการใช้แนวคิดทฤษฎี  ผลงานวิจัยจากแหล่งข้อมูล  สรุป  เช่น  หนังสือ  วารสารวิชาการ  อินเตอร์เน็ต  ประกอบการวิเคราะห์วิจารณ์  เสนอแนวทางการแก้ไข ประกอบด้วย
                   1.1    ชื่อเรื่อง (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
                   1.2   ผู้แต่ง  (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) (ให้ทำเชิงอรรถไว้ท้ายของหน้าแรกเท่านั้น ประกอบด้วย ตำแหน่งสังกัดภาควิชา/สาขาวิชา/แผนก คณะ สถาบัน และระบุจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของผู้นิพนธ์ ในกรณีที่มีผู้ร่วมนิพนธ์หลายท่านให้ระบุจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของผู้นิพนธ์หลักเท่านั้น)
                   1.3   บทคัดย่อ (สรุปเนื้อหาโดยภาพรวม ผู้นิพนธ์ควรเขียนในลักษณะมุ่งประเด็นสำคัญ  นำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ ที่มีความชัดเจน ไม่ซับซ้อน และเป็นประโยชน์ต่อสังคมและหรือแวดวงการศึกษาอย่างไร)
                   1.4   บทนำ 
                   1.5   เนื้อหา
                   1.6   บทสรุป
                   1.7   เอกสารอ้างอิง
               2.  บทความวิจัย (Research article) หมายถึง  เป็นการนำเสนอผลการวิจัยอย่างเป็นระบบ  กล่าวถึงความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา  วัตถุประสงค์  การดำเนินการวิจัย  ผลการวิจัย  สรุปและอภิปรายผล
                   บทความวิจัยประกอบด้วย  หน้าที่เป็นชื่อเรื่อง  บทคัดย่อ  และเนื้อหาของบทความ  ในส่วนหน้าที่เป็นชื่อเรื่องควรมีข้อมูลตามลำดับดังนี้ 
                   2.1   ชื่อเรื่อง  (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)

                   2.2   ชื่อผู้นิพนธ์  (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
                   2.3   ทำเชิงอรรถ สังกัด  (ภาควิชา  คณะ  สถาบัน) หรือในกรณีที่เป็นนักศึกษา  ควรมีรายละเอียด  เช่น  หลักสูตร  สาขา  มหาวิทยาลัย  คณะกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์  และวุฒิการศึกษาของคณะกรรมการ
                   2.4   บทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษต้องระบุถึงความสำคัญของเรื่อง  วัตถุประสงค์  วิธีการวิจัย  (ประชากร  กลุ่มตัวอย่าง  กลุ่มเป้าหมายหรือผู้ให้ข้อมูลและวิธีการสุ่ม  เครื่องมือ  และสถิติที่ใช้ในการวิจัย)  ผลการวิจัย  สรุปและอภิปรายผล  ความยาวไม่เกิน  250  คำ
                   2.5   ในกรณีที่ต้นฉบับเป็นภาษาไทย  ให้ผู้นิพนธ์เขียนบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  ระบุคำสำคัญของเรื่อง  (keywords)  จำนวนไม่เกิน  5  คำ
                   2.6   บทนำ
                   2.7   วัตถุประสงค์
                   2.8   สมมติฐาน (ถ้ามี)
                   2.9   วิธีดำเนินการวิจัย ประกอบด้วย การกำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง กรอบแนวคิด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล (ข้อมูลสถิติที่ใช้ในการวิจัยในระบุไว้ในส่วนการวิเคราะห์ข้อมูล)
                   2.10  ผลการวิจัย
                   2.11  อภิปรายผล ให้ชี้แจงว่าผลการศึกษาตรงกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย หรือแตกต่างไปจากผลงานที่มีผู้รายงานไว้ก่อนหรือไม่ อย่างไร เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ที่สำคัญจะต้องมีการสังเคราะห์องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยบนพื้นฐานการอ้างอิงที่เชื่อถือได้ และให้จบด้วยข้อเสนอแนะที่จะนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ หรือทิ้งประเด็นคำถามการวิจัย ซึ่งเป็นแนวทางสำหรับการวิจัยต่อไป (ในกรณีที่เป็นวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระให้มีกิตติกรรมประกาศหรือคำขอบคุณลงท้ายบทความ)
                   2.12  ตาราง รูปภาพ และแผนภูมิ ควรคัดเลือกเฉพาะที่จำเป็น และต้องมีคำอธิบายสั้น ๆ และสื่อความหมายได้สาระครบถ้วน ในกรณีที่เป็นตาราง รูปภาพหรือแผนภูมิ กำหนดให้ชื่อของตารางต้องอยู่ด้านบนและคำอธิบายอยู่ด้านล่าง  ตัวอย่างเช่น การระบุคำในชื่อของตาราง อาทิ ตารางที่ 1 ค่าความถี่...., ภาพประกอบ 1 การจัดกิจกรรม....หรือ แผนภูมิ 1 การจำแนกสถิติ..... เป็นต้น
                   2.13  เอกสารอ้างอิง สำหรับการพิมพ์เอกสารอ้างอิง กำหนดให้ใช้รูปแบบการเขียนอ้างอิงเป็นแบบ APA (American Psychological Association version 6th edition) ทั้งเอกสารอ้างอิงที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยมีหลักการทั่วไป คือ เอกสารอ้างอิงต้องเป็นที่ถูกตีพิมพ์และได้รับการยอมรับทางวิชาการเรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้บทคัดย่อ  ต้องไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล และไม่ใช่บทความที่อยู่ในระหว่างการรอตีพิมพ์
             เนื้อหาของบทความ ให้เริ่มต้นจากบทนำโดยมีความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วัตถุประสงค์ และสมมติฐานของงานวิจัย วิธีการดำเนินการวิจัย ประกอบด้วย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง กรอบแนวคิด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล  ผลการวิจัย  สรุปและอภิปรายผลการวิจัย และกิตติกรรมประกาศ  (ถ้ามี)  เทคนิคและวิธีการทั่วไปให้อธิบายไว้ในส่วนวัสดุอุปกรณ์และวิธีการดำเนินการวิจัย  ผลการทดลองต่าง ๆ  ให้อธิบายไว้ในส่วนผลการวิจัย การสรุปผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์  การวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการทดลองกับงานของผู้อื่นให้เขียนไว้ในส่วนสรุปและอภิปรายผล