การพัฒนาแบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาโดยใช้รูปแบบสตีมศึกษาและเนื้อหาความเป็นท้องถิ่นของจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องการพัฒนาแบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาโดยใช้รูปแบบสตีมศึกษาและเนื้อหาความเป็นท้องถิ่นของจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนตัวอย่างของแบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษแบบสตีมศึกษาโดยใช้เนื้อหาความเป็นท้องถิ่นของจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2) เพื่อวิเคราะห์ความสอดคล้องด้านทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ ด้านการพัฒนาความสามารถในการคิด และด้านการพัฒนาทักษะสตีม (STEAM) ที่ปรากฏในบทเรียนตัวอย่างของแบบฝึกการอ่าน การวิจัยนี้ดำเนินการโดยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยใช้แบบสำรวจ (Questionnaire) กับครูภาษาอังกฤษระดับมัธยมปลายที่สอนในโรงเรียนจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 24 คน เพื่อทราบเนื้อหาที่ครูต้องการใช้สอนนักเรียนมากที่สุด ผลการวิจัยพบว่า เนื้อหาที่ครูต้องการนำมาใช้ในแบบฝึกการอ่าน ได้แก่ การท่องเที่ยว ร้อยละ 24.17 อาหารและขนมหวาน ร้อยละ 18.33 ศิลปะและวัฒนธรรม ร้อยละ 12.50 ทรัพยากรธรรมชาติ ร้อยละ 11.67 โครงการในพระราชดำริ ร้อยละ 7.50 เศรษฐกิจ ร้อยละ 5.83 ชุมชน ร้อยละ 5.83 เกษตรกรรม ร้อยละ 5.00 สภาพภูมิอากาศ ร้อยละ 5.00 และสภาพภูมิประเทศ ร้อยละ 4.17 ตามลำดับ และเมื่อวิเคราะห์ความสอดคล้องด้านทักษะการเรียนภาษาอังกฤษ ด้านการพัฒนาความสามารถในการคิด และด้านการพัฒนาทักษะสตีม (STEAM) ที่ปรากฏในบทเรียนตัวอย่างของแบบฝึกการอ่าน พบว่าบทเรียนตัวอย่าง (บทที่ 1 เรื่อง Let’s go travel) มีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาความสามารถของผู้เรียน โดยมีค่าความสอดคล้องด้านทักษะการเรียนภาษาอังกฤษที่ระดับ 0.95 ด้านการพัฒนาความสามารถในการคิดที่ระดับ 0.95 และด้านการพัฒนาทักษะสตีม (STEAM) ที่ระดับ 0.89
Article Details
References
Essberger, J. (2010). Improve your English through reading. Retrieved June 29, 2018, from https://www.englishclub.com/esl-articles/200003.htm.
Friedman, T. L. (2005). The world is flat: A brief history of the twenty-first century. New York: Farra, Straus, and Giroux.
Halpern, D. F. (1999). Teaching for critical thinking Helping college students develop the skills and dispositions of a critical thinker. Article in New Directions for Teaching and Learning, 80, pp. 69-74.
Higgins, S. E. (2014). Critical Thinking for 21st – Century education: A cyber-tooth curriculum?, Durham Research online, 14 (4), 559-574.
Hom, E. J. (2014). What is STEM Education?, Retrieved July 18, 2018, from https://www.livescience.com/43296-what-is-stemeducation.html.
Limbach, B., & Waugh, W. (2010). Developing Higher Level Thinking. Journal of Instructional Pedagogies, 3, 1-9
Maeda, J. (2013). STEM +art= STEAM. The Steam Journal, 1(1), 1-3.
Ministry of Tourism and Sports, Thailand. (2017). Tourism Statistics 2017. Retrieved June 25, 2018, from Website https://www.mots.go.th/ more_news.php?cid=414&filename=index.
Norris, S. P., & Phillips, L. M. (1994). The Relevance of a Reader’s Knowledge within a Perspectival View of Reading. Retrieved June 28, 2018, from http://journals.sagepub.com/doi/10.1080/10862969409547860.
Phosri, W. et al. (2013). Integrated Learning Teacher Professional Development in Primary Schools. Procedia - Social and Behavioral Sciences, 112, 2014, 775 – 780.
Richey, R. C., & Klein, J. D. (2014). Design and Development Research: method, strategies, and issues. New York: Routledge.
Rokhayati, T. (2016). Developing English Text book based on Intercultural Approach and Character Education at the Tenth Grade Students of SMA in Purworejo Regency. Proceeding The 2nd International Conference On Teacher Training and Education Sebelas Maret University, 2, 219-225
Southern Illinois University (2015). Fueling STE(a)M Education with Art and Creativity. Retrieved July 18, 2018, from Website http://www.bwc. com/blog/post/fueling-steam-education-with-art-and-creativity/.
Van Dusen, L. M., & Worthen, B. R. (1994). The impact of integrated learning system implementation on student outcomes: Implication for research and evaluation. International Journal of Educational Research, 21(1), 13-24.