แนวคิดเรื่องท้าวจาตุโลกบาลกับการสื่อสารแบบซอฟพาวเวอร์ในสังคมไทย

Main Article Content

พระมหาขวัญชัย เหมประไพ
คงสฤษฎ์ แพงทรัพย์
ไชยา เสนแสนยา
เพ็ญพรรณ เฟื่องฟูลอย
เกษริน บุตรา

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาแนวคิดท้าวจาตุโลกบาลกับการสื่อสารแบบซอฟต์พาวเวอร์ 2. เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดท้าวจตุโลกบาลกับการสื่อสารเชิงซอฟต์พาวเวอร์ในสังคมไทย ใช้การศึกษาจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า 1. แนวคิดเรื่องท้าวคติความเชื่อเรื่องท้าวจตุโลกบาล ซึ่งเป็นเทพผู้พิทักษ์ทิศทั้ง 4 ในจักรวาลวิทยาทางพระพุทธศาสนา ได้ถูกนำเสนอและสืบทอดผ่านสื่อทางวัฒนธรรมอันหลากหลาย อาทิ จิตรกรรม สถาปัตยกรรม และประเพณีพิธีกรรม การแสดงออกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ได้สถาปนาอำนาจเชิงความเชื่อที่มีนัยต่อระบบการปกครองและเป็นรากฐานทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ในขณะเดียวกัน แนวคิดซอฟต์พาวเวอร์ของโจเซฟอธิบายถึงการใช้อำนาจผ่านการสร้างแรงดึงดูดใจและการโน้มน้าวใจ แทนที่การบังคับ โดยอาศัยทรัพยากรทางวัฒนธรรม ค่านิยม และนโยบาย 2. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงทฤษฎีชี้ให้เห็นว่า การนำเสนอท้าวจตุโลกบาลในฐานะเทพผู้พิทักษ์เป็นการสะท้อนวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่บนฐานของ ความคิดดั้งเดิม และ สัมพัทธนิยมเชิงการรับรู้ ซึ่งให้ความสำคัญกับความเชื่อ จินตนาการ และอารมณ์ความรู้สึกต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อให้เกิดสำนึกในการเคารพบูชาเทพเจ้าในฐานะผู้มีอำนาจปกป้องคุ้มครองสังคมและบ้านเมือง ซึ่งเป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่สร้างอิทธิพลเชิงบวกโดยปราศจากการใช้อำนาจบังคับ ในเชิงปฏิบัติ ความเชื่อดังกล่าวได้แปรสภาพเป็นทุนศักดิ์สิทธิ์ ทั้งในมิติรูปธรรม (ศิลปวัตถุ สถาปัตยกรรม) และนามธรรม (คำสอน หลักปรัชญา) ทุนเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือของซอฟต์พาวเวอร์ทางศาสนา สร้างแรงดึงดูดและแผ่อิทธิพลทางความคิดและค่านิยม ปัจจุบันยังพบการประยุกต์ใช้ในวัฒนธรรมสมัยนิยม เช่น การสร้างสรรค์เทวรูปในรูปแบบของเล่นศิลปะ ซึ่งเป็นการตีความแนวคิดดั้งเดิมในบริบทใหม่ เพื่อขยายการรับรู้และสร้างคุณค่าในสังคมร่วมสมัย การสื่อสารผ่านคติความเชื่อท้าวจตุโลกบาลจึงมิใช่การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา หากแต่เป็นการซึมซับและยกระดับความรู้สึกของผู้คนให้เข้าถึงความหมายเชิงคุณค่า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารเชิงซอฟต์พาวเวอร์

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กนกวรรณ มะโนรมย์. (2565). ภววิทยาแม่น้ำโขง: เขื่อน น้ำของ และผู้คน. กรุงเทพมหานคร: สยาม ปริทัศน์.

คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง, ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ. (2568). ภารตะ-สยาม มูฯ ไทย ไสยฯ อินเดีย. กรุงเทพมหานคร: มติชน.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณ

ราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พัสวีสิริ เปรมกุลนันท์. (2560). วัด-วังในพระราชประสงค์พระจอมเกล้าฯ. กรุงเทพมหานคร: มติชน.

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570). (2565). ราชกิจจานุเบกษา 1 พฤศจิกายน 2565 เล่ม 139 ตอนพิเศษ 258 ง.

พระญาลิไทย. (2564). เตภูมิกถา. นนทบุรี: ศรีปัญญา.

มงเซญอร์ ปาลเลกัวช์. (2552). เล่าเรื่องกรุงสยาม. แปลโดย สันต์ ท. โกมลบุตร. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: โสภณการพิมพ์.

พัสวีสิริ เปรมกุลนันท์. (2560). วัด-วังในพระราชประสงค์พระจอมเกล้าฯ. กรุงเทพมหานคร: มติชน.

ปีเตอร์ เอ.แจ็คสัน. (2566) เทวา มนตรา คาถา เกจิ: ไสยศาสตร์สมัยใหม่กับทุน(ไทย)นิยม. แปลโดย วิราวรรณ นฤปิติ. กรุงเทพมหานคร: มติชน.

ศรีศักร วัลลิโภดม. (2560). พุทธศาสนาและความเชื่อในสังคมไทย. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์.

วิมลรักษ์ ศาสติธรรม. (2565). “Soft Power พลังแห่งการสร้างสรรค์”.วิจัยปริทัศน์. ฉบับที่ 27 ตุลาคม 2565: 1-17.

อชิชัชญ์ ไชยพจน์พานิช. (2563). เทพเจ้าในศาลจีนกรุงเทพมหานคร: รูปแบบ คติการสร้าง และความสัมพันธ์กับชุมชนชาวจีน. รายงานการวิจัย. สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยศิลปากร.

Ahmet Erdi Oztur. (2023). Religious Soft Power: Definition(s), Limits and Usage, Religions, 14(135): 1-5.

Clifford Geertz. (2000). Local Knowledge: Further Essays in Interpretive Anthropology. USA: Basic Books.

Joseph S. Nye. (2021). Soft power: the evolution of a concept, Journal of Political Power, 14: 7.

Joseph S. Nye. (1990). Soft power. Foreign Policy. 80: 167.

Kelton Cobb. (2005). The Blackwell Guide to Theology and Popular Culture. Oxford: Blackwell Publishing.

Sir Monier Monier-Williams. (2009). Buddhism In its Connexion with Brahmanism and Hinduism and in its Contrast with Christianity. Cambridge: Cambridge University Press.