ผลการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง การจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนิสิตชั้นปีที่ 3 ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน 15 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนตามหลักพรหมวิหาร 4 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนตามหลักพรหมวิหาร 4 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนิสิตหลังการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนตามหลักพรหมวิหาร 4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) และการทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามแผนการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนตามหลักพรหมวิหาร 4 สำหรับนิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- นิสิตชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนตามหลักพรหมวิหาร 4 มีความพึงพอใจมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร ปรัชญาปริทรรศน์
ข้อความในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสาร มจร ปรัชญาปริทรรศน์
เอกสารอ้างอิง
กมล โพธิเย็น. (2564). Active Learning: การเรียนรู้ตอบสนองการศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์. มหาวิทยาลัยศิลปากร: 37.
ชัญญาดา โพนสิงห์. (2561). ศึกษาการประยุกต์ใช้หลักพรหมวิหาร 4 ตามจรรยาบรรณวิชาชีพครูโรงเรียนเทศบาล 4 (ฉลองรัตน์) อำภอเมือง จังหวัดหนองคาย. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ณปภา บุญศักดิ์. (2552). การจัดการเรียนรู้และการสอน. [เอกสารอัดสำเนา]. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
บัวพิศ ภักดีวุฒิ. (2558). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวังหลวงพิทยาสรรพ์จังหวัดหนองคาย โดยใช้ชุดฝึกทักษะพื้นฐานและชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามวงจรการปฏิบัติการคิด สร้างสรรค์ของ Plsek. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช). (2543). พระในบ้าน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง.
พระเทพวิสุทธิกวี (พิจิตร ฐิตวณโณ). (2547). การพัฒนาจิต. พิมพ์ครั้งที่ 6. นครปฐม: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย.
เกรียงไกร จันทะแจ่ม. (2559). “การจัดการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา ในโรงเรียนสัตยาไส จังหวัดลพบุรี”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ราชกิจจานุเบกษา. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2545. [อินเทอร์เน็ต]. 2545 [เข้าถึงเมื่อ 5 เมษายน 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://www.moe.go.th/backend/wp-content/uploads/2020/
วิชัย ประสิทธิวุฒิเวชช์. (2542). การพัฒนาหลักสูตรสานต่อที่ท้องถิ่น. กรุงเทพมหานคร: เลิฟแอนด์ลิพ เพรส.
ลลิตา ธงภักดี. (2561). “การพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดนครราชสีมาเพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ของผู้เรียนแห่งศตวรรษที่ 21 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ”. วารสารชุมชนวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ปีที่ 12 ฉบับที่ 1 (2018): มกราคม-เมษายน.
Huang-Yao Hong, Yu-Hui Chang and Chin SingChai. (2014, May). Fostering a Collaborative and Creative Climate in a College Class through Idea-Centered Knowledge-Building. An International Journal of the Learning Sciences. 42(3).
Ronald A. Beghetto snd James C. Kaufman. (2014). Nurturing Creativity in the Classroom. Cambridge University Press.