การศึกษาเปรียบเทียบการจัดการทรัพย์สินตามหลักศาสนา : กรณีศึกษากลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ วัดไผ่ล้อม จังหวัดตราด กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนากสิกรโคกวัด จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาการจัดการทรัพย์สินตามหลักศาสนาพุทธของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์วัดไผ่ล้อม 2) เพื่อศึกษาการจัดการทรัพย์สินตามหลักศาสนาศริสต์ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนากสิกรโคกวัด จำกัด และ 3)  เพื่อเปรียบเทียบการจัดการทรัพย์สินตามหลักศาสนาพุทธของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์วัดไผ่ล้อมกับการจัดการทรัพย์สินตามหลักศาสนาคริสต์ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนากสิกรโคกวัด จำกัด งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพใช้การศึกษาเอกสารและการสัมภาษณ์เชิงลึก ผลการวิจัย พบว่า 1. หลักการจัดการทรัพย์สินตามหลักศาสนาพุทธของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์วัดไผ่ล้อม มีหลักการบริหารกลุ่ม คือ ใช้หลักพุทธเศรษฐศาสตร์ คือ การนำหลักธรรมะเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ยึดหลักความเท่าเทียมกัน มีวัดเป็นกลางของการบริหาร เป็นการบริหารแบบมีส่วนร่วมได้แก่ บ้าน วัด โดยร่วมคิด ร่วมทำร่วมพัฒนา ร่วมแก้ปัญหา ยึดหลักการบริหารแบบแบ่งปันช่วยเหลือ เอื้ออาทร กระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน โปร่งใส และตรวจสอบได้ 2. หลักการจัดการทรัพย์สินตามหลักศาสนาศริสต์ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนากสิกรโคกวัด จำกัด ได้แก่ 1) หลักแห่งประชาธิปไตยโดยเปิดรับสมาชิกทั่วไปด้วยความสมัครใจ 2) หลักการเป็นสมาชิกโดยการจัดสรรผลประโยชน์แก่มวลสมาชิก และ 3) หลักเป้าหมายทางสังคม คือความรับผิดชอบต่อสังคม 3. เปรียบเทียบการจัดการทรัพย์สินตามหลักศาสนาพุทธของกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์วัดไผ่ล้อมกับการจัดการทรัพย์สินตามหลักศาสนาคริสต์ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนากสิกรโคกวัด จำกัด เมื่อเปรียบเทียบหลักการ วิธีการ อุดมการณ์ และผลสัมฤทธิ์ของทั้ง 2 กลุ่มมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก ทั้ง 2 กลุ่มบริหารจัดการประสบผลสำเร็จโดยใช้หลักธรรมของศาสนาในการยึดเหนี่ยวจิตใจของสมาชิกให้มีคุณธรรม สมาชิกสามารถช่วยเหลือตนเองและสังคมได้