ธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม สัตตภัณฑ์ : การธำรงอัตลักษณ์ คุณค่าและการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติโดยชุมชนในล้านนา
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประวัติ ความสำคัญ และคุณค่าของธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ในล้านนา 2) เพื่อศึกษารูปแบบของธรรมาสน์ ตู้คัมภีร์ธรรม และสัตตภัณฑ์ในล้านนา 3) เพื่อศึกษากลไกการธำรงอัตลักษณ์และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติโดยชุมชนในล้านนา เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การวิจัยเอกสาร ร่วมกับการสำรวจภาคสนาม การสัมภาษณ์ สนทนากลุ่ม พื้นที่วิจัย คือ วัดในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง จังหวัดละ 20 วัด รวม 60 วัด ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้แทนพระสงฆ์ ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ช่างล้านนา นักวิชาการด้านพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม จำนวน 30 รูป/คน โดยใช้วิธีคัดเลือกแบบเจาะจงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด คือ แบบสำรวจภาคสนาม แบบสัมภาษณ์ และแนวทางการสนทนากลุ่ม ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา แล้วเขียนบรรยายเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1. ธรรมาสน์ คือ แท่นนั่งของพระสงฆ์เพื่อแสดงธรรมเทศนา ส่วนตู้คัมภีร์ธรรม คือ หีบหรือตู้สำหรับใส่คัมภีร์ใบลานซึ่งบันทึกเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา เช่น พระไตรปิฎก คำสอน ชาดก ตำนาน อานิสงส์ ตำรา เป็นต้น สำหรับสัตตภัณฑ์ คือแท่นเชิงเทียนที่มียอดเรียงลดหลั่นกัน 7 ยอด สำหรับจุดเทียนถวายเป็นพุทธบูชาตั้งไว้ด้านหน้าพระประธานในวิหาร อุโบสถ และเจดีย์ ทำด้วยไม้ประดับด้วยลวดลายศิลปะต่างๆ ตามลักษณะภูมิปัญญาเชิงช่างล้านนา 2. ธรรมมาสน์มี 3 รูปแบบ ได้แก่ ทรงปราสาทยอด ทรงปราสาทหลังคาตัดไม่มียอด แบบฐานสูงทรงกรวย ตู้คัมภีร์ธรรมมี 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบตู้คัมภีร์ธรรม แบบหีบคัมภีร์ธรรม ซึ่งแบบที่ 2 นี้ มีแบบย่อยอีก 3 คือ ทรงปราสาท ทรงลุ้ง ทรงสี่เหลี่ยม และสัตตภัณฑ์มี 6 รูปแบบ ได้แก่ สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ห้าเหลี่ยม โค้งครึ่งวงกลม แบบบันไดแก้ว และ แบบเสา 3. กลไกการธำรงอัตลักษณ์และการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติโดยชุมชนในล้านนาได้แก่ 1) การจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม 2) การจัดการคน 3) การจัดการพื้นที่เรียนรู้ 4) การจัดการเครือข่าย
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร ปรัชญาปริทรรศน์
ข้อความในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสาร มจร ปรัชญาปริทรรศน์
เอกสารอ้างอิง
กรรณิกา คำดี. (2558). วัดและศาสนสถานในมิติของการท่องเที่ยว. วารสารภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 4(2), 175-191.
กาญจนา ชลศิริ และวัชระ กว้างไชย์. (2561). การอนุรักษ์นาคทันต์และธรรมาสน์บุษบกล้านนา. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ประทีป พืชทองหลาง และญาตาวีมินทร์ พืชทองหลาง. (2555). โครงการสืบค้นและจัดเก็บข้อมูลสัตตภัณฑ์ล้านนา. รายงานการวิจัย. สถาบันวัฒนธรรมศึกษา (สำนักมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม)
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม.
ประทีป พืชทองหลาง และญาตาวีมินทร์ พืชทองหลาง. (2560). โครงการสืบค้นและจัดเก็บข้อมูลสัตตภัณฑ์ล้านนา. วารสารมนุษยศาสตรปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร. 39(2), 94-120.
ประทีป พืชทองหลาง, เพราพิลาส ประสิทธิ์บุรีรักษ์ และญาตาวีมินทร์ พืชทองหลาง. (2561). วัดงาม นามมงคล: แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศาสนาของวัดนามมงคล ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม. 7(1), 212-252.
ประทีป พืชทองหลาง และญาตาวีมินทร์ พืชทองหลาง. (2563). สัตตภัณฑ์: พุทธศิลป์ถิ่นล้านนา. วารสารพื้นถิ่นโขง ชี มูล, 6(1), 65-116.
พระนคร ปรังฤทธิ์, พระธีทัต แจ้ใจ และประทีป พืชทองหลาง. (2565). นวัตกรรมการจัดการแหล่งท่องเที่ยววัดตามแบบอารยสถาปัตย์ในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารปณิธาน, 18(1), 74-110.
พระมหาจรัญ ยาวินัน. (2549). ธรรมาสน์พื้นเมืองล้านนาในจังหวัดลำปาง. สารนิพนธ์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร
พระสุธีรัตนบัณฑิต. (2564). การจัดการมรดกวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา. นนทบุรี: นิติธรรมการพิมพ์.
มณี พยอมยงค์ และศิริรัตน์ อาสนะ. (2538). เครื่องสักการะในล้านนาไทย. เชียงใหม่: ส.ทรัพย์การพิมพ์.
ศิริศักดิ์ อภิศักดิ์มนตรี และธนิกานต์ วรธรรมานนท์. (2559). อานิสงส์หีดหอไตร ฉบับวัดพระหลวง อำเภอ สูงเม่น จังหวัดแพร่. วารสารดำรงวิชาการ, 15(2), 59-88.