ปัจจัยที่เอื้อต่อผลิตภาพการปฏิบัติงานของพนักงานสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อทราบปัจจัยเอื้อต่อผลิตภาพการปฏิบัติงานของพนักงานสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ 2) เพื่อทราบผลการยืนยันปัจจัยเอื้อต่อผลิตภาพการปฏิบัติงานของพนักงานสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จำนวน 24 มหาวิทยาลัย การกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยการเปิดตารางประมาณการขนาดกลุ่มตัวอย่างของเครจซีและมอร์แกน ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยการสุ่มอย่างง่าย ผู้ให้ข้อมูล คือบุคลากรสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มหาวิทยาลัยละ 15 คน รวมผู้ให้ข้อมูลจำนวน 360 คน เครื่องมือวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง แบบสอบถามความคิดเห็น และแบบสอบถามเพื่อยืนยันผลการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงสำรวจ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. ปัจจัยเอื้อต่อผลิตภาพการปฏิบัติงานของพนักงานสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ประกอบด้วย 5 ปัจจัย ได้แก่ 1) การจัดระบบการปฏิบัติงาน 2) การสร้างแรงจูงใจในการทำงาน 3) การมีธรรมาภิบาล 4) การทำงานเป็นทีม และ 5) การส่งเสริมพัฒนาบุคลากร ทุกปัจจัยสามารถอธิบายร่วมกันได้ร้อยละ 50.9582. ผลการยืนยันปัจจัยเอื้อต่อผลิตภาพการปฏิบัติงานของพนักงานสนับสนุนในมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ พบว่า มีความถูกต้อง เหมาะสม เป็นไปได้ และเป็นประโยชน์
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร ปรัชญาปริทรรศน์
ข้อความในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสาร มจร ปรัชญาปริทรรศน์
เอกสารอ้างอิง
จนิสา ช่วยสมบูรณ์. (2556). แนวทางการพัฒนาบุคลากร : กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล.การค้นคว้าอิสระหลักสูตรปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง(จังหวัด สงขลา).
ธีระเดช ริ้วมงคล. (2555). การทำางานเป็นทีม. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สำานักพิมพ์มหาวิทยาลัย รามคำแหง.
นลพรรณ บุญฤทธ์. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดชลบุรี. งานนิพนธ์การศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสาขาวิชาการจัดการสาธารณะ วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
นันทวดี อุ่นละมัย และกฤษดา เชียรวัฒนกุล. (2562). แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ที่มีผลต่อการปฏิบัติงานและการคงอยู่ในองค์กรของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุน กรณีศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา. ปีที่ 9 ฉบับที่ 3 (กันยายน-ธันวาคม 2562): 126-138.
ปิยะนุช พรหมประเสริฐ และประพันธ์ ชัยกิจอุราใจ. (2562). ปัจจัยส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลาการกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ. วารสารวิทยบริการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 30(2): 133-147.
พนิดา คำนา.(2563). ปัจจัยเอื้อต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานสายสนับสนุนมหาวิทยาลัยศิลปากร. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ปีที่ 18 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม - ธันวาคม), 18(2): 185-200.
สมยศ นาวีการ.(2545). การเพิ่มประสิทธิของการบริหาร : Mbo, (กรุงเทพฯ : บรรณกิจ, 2545), 5.
Adeogun. S. O, O. E. Fapojuwo and M. T. Ajayi. (2011). Motivation Factors Affecting Employees JobPerformance in Selected Agricultural Oil Palmindustries in EDOState, Nigeria: Global Journal of Agricultural Sciences.
Best, John W. (1970). Research in Education. Englewood Cliffs, New Jersey : Prentice-Hall Inc.
Certo, Samuel C. (2000). Modern Management. New Jersey : Prentice-Hall.
Robert L.Mathis; & John it, Jackson. (2000). Human Management. 2 nd ed. , South -Western Colledge Publishing, Copyright, p.104.
Robert V.Krejcie and Daryle W.Morgan, “Determining Sampling Size for Research Activities”, Journal for Education and Psychological Measurement No (3 November 1970): 608.
Russell, C.J. (2001) “A long-term study of top-level executive performance,” Journal of Applied Psychology August : 560-573.