การพัฒนากฎหมายในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญา
คำสำคัญ:
ผู้ไกล่เกลี่ย; การระงับข้อพิพาท; การไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นการสอบสวนบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1)เพื่อศึกษา ปัญหาและอุปสรรคในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นการสอบสวน(2) เพื่อศึกษา วิเคราะห์ และเปรียบเทียบกฎหมายไทยและต่างประเทศในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญา (3) เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง แก้ไข พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทพ.ศ.2562 ให้มีประสิทธิภาพเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล
ข้อค้นพบที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้พบว่าการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นการสอบสวน
ยังมีปัญหาและข้อจำกัดเกี่ยวกับความผิดที่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาในชั้นการสอบสวน ได้แก่ ความผิดลหุโทษ และความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสามปีตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 และกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทยังมีความไม่เหมาะสมหลายประการ เช่น คุณสมบัติของผู้ไกล่เกลี่ย การไกล่เกลี่ยที่ไม่ได้กำหนดรูปแบบเป็นองค์คณะเอาไว้ รวมทั้งไม่มีกลไกในการตรวจสอบการใช้ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจออกคำสั่งในกรณีที่ไม่อนุญาตให้คู่กรณีไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญา
ข้อเสนอแนะของงานวิจัยฉบับนี้ได้เสนอแนะ แก้ไข เพิ่มเติม พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ย
ข้อพิพาท พ.ศ.2562 มาตรา 10 มาตรา 17 มาตรา 41 มาตรา 44 มาตรา 49 มาตรา 73 และมาตรา74
References
กรมราชทัณฑ์.(2564).รายงานสถิติผู้ต้องราชทัณฑ์.สืบค้น 7 มิถุนายน 2564จาก http://www.correct.go.th/stathomepage.
กิตติพงษ์กิตยารักษ์. (2550). ความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ : หลักการและแนวคิด เล่มที่ 2. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
คณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา. (2554). รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีอาญาชั้นสอบสวน. กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา.
อุทัย อาทิเวช. (2562). การไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางอาญาตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทพ.ศ.2562. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด วี.เจ. พริ้นติ้ง.
อุดม รัฐอมฤต. (2548). บทบาทของอัยการในมุมมองของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์. กรุงเทพฯ: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว