แนวทางการพัฒนาการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่นในยุคไทยแลนด์ 4.0 กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ

Main Article Content

ธิติรัตน์ เหล่าคมพฤฒาจารย์
จุลจีรา จันทะมุงคุณ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาในการจัดเก็บรายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่นในยุคไทยแลนด์ 4.0 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ และ 3) เพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่ผู้บริหารระดับสูงขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม เก็บข้อมูล จำนวน 270 คน และแบบสัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมูล จำนวน 20 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา  

Article Details

บท
Research Articles
Author Biography

จุลจีรา จันทะมุงคุณ, มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ, ประเทศไทย

มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ, ประเทศไทย

References

กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง, (2558), “การปรับปรุงวิธีการจัดสรรรายได้ประเภทภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้เกิดความเป็นธรรม โดยการใช้ข้อมูลจัดทำรายงานภาษีซื้อและภาษีขายของภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดสรร”, รายงานวิจัยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง.
โกวิทย์ พวงงาม, (2550), “การปกครองท้องถิ่นไทย”, เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชาการเมืองการปกครองส่วนท้องถิ่นไทย หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาการปกครองท้องถิ่น, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์เอ็กซ์เปอร์เน็ท.
ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์, (2550), “การวิจัยนโยบายสาธารณะ : ประเมินกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นในระดับพื้นที่”, กรุงเทพฯ : สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.
บุญชม ศรีสะอาด, (2556), “วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย เล่ม 1”, พิมพ์ครั้งที่ 5, กรุงทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
ประพาฬ วงศ์สุบิน, (2558), “ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : การศึกษาเปรียบเทียบระหว่างองค์การบริหารส่วนตําบล ในเขตอำเภอแกลง จังหวัดระยอง”, วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏรําไพพรรณี.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, (2547),“การบริหารท้องถิ่น”, เอกสารประกอบการสอนชุดวิชาการบริหารท้องถิ่น, นนทบุรีฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
รวิวรรณ อินทรวิชา, (2560), “การศึกษาการจัดเก็บภาษีท้องถิ่นในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดมหาสารคาม”, วารสารการเมืองการปกครอง, 7(2) : 249-269.
วาสนา เมธาวรากุล, (2559), “ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีบำรุงท้องถิ่นของเจ้าหน้าที่องค์การ บริหารส่วนตำบล กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลิง อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี”,วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต(การเมืองการปกครอง),บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์, (2553), “ระเบียบวิธีวิจัยสำหรับธุรกิจ”, พิมพ์ครั้งที่ 3, กรุงเทพฯ : ฮาซันพริ้นติ้ง.
สุรศักดิ์ โตประสีและจิตราภรณ์ สุทธิวรเศรษฐ์ , (2561), “ประสิทธิภาพในการบริหารการจัดเก็บภาษีของเทศบาลบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ”, วารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 10(2) : 161-169.
Cronbach, L. J, (1990), “Essentials of psychological testing”, 5th ed., New York : Harper Collins Publishers.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W, (1970), “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement.
Likert, R, (1976), “New Patterns of Management”, New York : McGraw - Hill.
Rovinelli, R.J., & Hambleton, R.K, (1977), “On the use of content specialists in the assessment of criterion-referenced test item validity”. Dutch Journal of Educational Research.