การบริหารกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัยนักเรียนของโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาที่ 4 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันในการบริหารกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัยนักเรียน 2) ศึกษาการบริหารกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัยนักเรียน 3) เสนอแนวทางการบริหารกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัยนักเรียน โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ มีผู้ให้ข้อมูลสำคัญโดยการสัมภาษณ์จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 12 คน ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 คน และผู้ทรงคุณวุฒิในการสนทนากลุ่ม จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ และแบบสนทนากลุ่ม ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันในการบริหารกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัยนักเรียน มีการดำเนินการจัดกิจกรรม 4 กิจกรรมคือ (1) กิจกรรมเข้าแถวตามลำดับ (2) กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี เพื่อบ่มเพาะระเบียบวินัย (3) กิจกรรมที่ส่งเสริมการตรงต่อเวลา (4) กิจกรรมที่ส่งเสริมการปฏิบัติตามระเบียบวินัย กติกา ข้อตกลงร่วมกันของห้องเรียน , โรงเรียน เช่น ทิ้งขยะในถัง , การแต่งกายที่ถูกต้องตามระเบียบ 2) การบริหารกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัยนักเรียน สถานศึกษาจะต้องทำการศึกษาหลักสูตรสถานศึกษารายวิชาเพิ่มเติม “การป้องกันการทุจริต” เตรียมจัดการสอน วางแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม “การป้องกันการทุจริต” ศึกษาหลักสูตร วิเคราะห์การเรียนการสอนกิจกรรมลูกเสือ เตรียมจัดการสอน วางแผนการจัดการเรียนการสอนและดำเนินการในกิจกรรมลูกเสือ มีการอบรมดูแล ติดตาม นักเรียนในการทำกิจกรรมทุกกิจกรรม โดยครูจะเป็นผู้ควบคุม ดูแล และติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลอย่างจริงจัง และสามารถนำผลที่ได้ไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาต่อไป 3) เสนอแนวทางการบริหารกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัยนักเรียน โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมกำกับติดตาม ประเมินผลการบริหารกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัยนักเรียนของโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาที่ 4 กำหนดปฏิทินการประเมินผลการบริหารกิจกรรมพัฒนาระเบียบวินัยนักเรียนของโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาที่ 4 การประเมินตามสภาพจริง การสังเกตพฤติกรรมเป็นการเก็บข้อมูลจากการดูการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียน การสังเกตพฤติกรรม เป็นการเก็บข้อมูลจากการดูการปฏิบัติกิจกรรมของผู้เรียนและการสนทนา เป็นการสื่อสาร 2 ทางอีกประเภทหนึ่ง ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน
Article Details
References
กระทรวงศึกษาธิการ, พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553, (กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กรุงเทพมหานคร, 2560), หน้า 3.
กลุ่มพัฒนานโยบายด้านการเรียนรู้, คู่มือการเสริมสร้างวินัยนักเรียนในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านความรับผิดชอบและการตรงต่อเวลา, (กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ, 2561), หน้า 5.
ณัชณิชา โพธิ์ใจ. การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างคุณลักษณะด้านความรับผิดชอบตามแนวคิดคุณลักษณะศึกษาของลิคโคนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา file:///C:/Users/Acer/Downloads/89535-Article%20Text-639241-1-10-20190730.pdf. [23 กุมภาพันธ์ 2563].
นงลักษณ์ ยอดมงคล, ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน, (กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), 2561), หน้า 6
ยุรธร จีนา และคณะ. รูปแบบการส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการ โรงเรียนบ้านแม่สา ตำบลแม่ริม อำเภอแม่สา จังหวัดเชียงใหม่. สาขามนุษยศาสตร์ สังคมวิทยา และการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่, 2560.
วิภาวี เธียรลีลา. เพราะครูห้ามและไม่เอาใจใส่ วินัยจึงไม่เกิดในห้องเรียน. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา https://thepotential.org/2019/04/30/positive-discipline-in-the-classroom/.[23 กุมภาพันธ์ 2563].
วิภาส ทองสุทธิ์. รูปแบบการเสริมสร้างวินัยนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดปทุมธานี. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา file:///C:/Users/Acer/Downloads/9242-27292-1-SM%20(3).pdf. [23 กุมภาพันธ์ 2563].
วีณา ประชากูล. การพัฒนาพฤติกรรมเชิงจริยธรรมด้านความมีระเบียบวินัยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา. [ออนไลน์], แหล่งที่มาhttp://library.cmu.ac.th/moralcorner/sites/de fault/files/pictures/re_feb12_3.pdf. [23 กุมภาพันธ์ 2563].
ศุจิรัตน์ ภูผานี และคณะ, การปฏิบัติตนตามค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการของนักเรียน โรงเรียนในอำเภอโคกศรีสุพรรณ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1, หน้า 169.
อุไร จักษ์ตรีมงคล. การพัฒนามาตรประเมินค่านิยมหลัก 12 ประการ สำหรับผู้เรียนอายุระหว่าง 12-14 ปี. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน), 2558.
Mussen,Paul H. and others. Child Development and Personality. 3rd ed. New York : Harper & Row. 1969.