แนวทางการพัฒนาการบริหารพัสดุของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารพัสดุโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ 2) เปรียบเทียบระดับการบริหารพัสดุโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์จำแนกตามขนาดโรงเรียน ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ 3) เสนอแนวทางการพัฒนาการบริหารงานพัสดุโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าเอฟ (F-test) และค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) สรุปผลการวิจัย 1) ระดับสภาพการพัฒนาการบริหารพัสดุของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ โดยภาพรวมรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย 3 อันดับ พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงไปหาต่ำตามลำดับ ดังนี้ ด้านการบันทึก รองลงมา คือ ด้านเบิกจ่าย และ ด้านการตรวจสอบ 2) ผลการเปรียบเทียบระดับการบริหารพัสดุโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์จำแนกตามขนาดโรงเรียน ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ พบว่าโดยภาพรวมและรายด้านพบว่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ทุกด้าน 3) ผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารงานพัสดุโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ พบว่า 1) ด้านการเก็บ ควรจัดทำคู่มือเกี่ยวกับการจัดเก็บ กำหนดเวลาในการปฏิบัติงานด้านการเก็บในแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจน บุคลากรในโรงเรียนควรมีส่วนร่วมในการร่วม ในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับงานพัสดุด้านการเก็บ 2) ด้านการจำหน่าย ควรมีการศึกษาจากกรณีศึกษา เกี่ยวกับการแปรสภาพหรือทำลายและการพิจารณาตามราคาอย่างสมเหตุสมผล ควรจำหน่ายวัสดุครุภัณฑ์ของโรงเรียนให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดว่าด้วยการจำหน่ายวัสดุครุภัณฑ์ 3) ด้านการบำรุงรักษา ควรมีการฝึกอบรมด้านการซ่อมบำรุงพื้นฐานให้กับครูในโรงเรียน พัฒนาระบบการบำรุงรักษา ผู้บริหารควรสร้างความตระหนักให้กับครูและบุคลากรในด้านการบำรุงรักษา บุคลากรควรมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ทางด้านต่างๆ ในการบำรุงรักษาวัสดุครุภัณฑ์ของโรงเรียน