รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทางการเรียนการสอนของหัวหน้า กลุ่มสาระการเรียนรู้ ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 11
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบของภาวะผู้นำทางการเรียนการสอนของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในพื้นที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 11 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทางการเรียนการสอนของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในพื้นที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 11 และ 3) หาประสิทธิผลของรูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทางการเรียนการสอนของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในพื้นที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 11 ผลการวิจัย พบว่า 1. องค์ประกอบภาวะผู้นำทางการเรียนการสอนของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในพื้นที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 11 ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบหลัก 27 องค์ประกอบรอง ดังนี้ 1) การกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายการเรียนรู้ มี 3 องค์ประกอบรอง2) การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา มี 4 องค์ประกอบรอง 3) การพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ มี 3 องค์ประกอบรอง 4) การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ มี 3 องค์ประกอบรอง 5) การพัฒนาบุคลากรหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ มี 5 องค์ประกอบรอง 6) การเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ มี 4 องค์ประกอบรอง และ 7) การประเมินคุณภาพการศึกษา มี 4 องค์ประกอบรอง 2. รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทางการเรียนการสอนของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในพื้นที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 11 ประกอบด้วย 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4) กระบวนการพัฒนา 5) สื่อและแหล่งเรียนรู้ และ 6) การวัดและประเมินผล 3. ประสิทธิผลของรูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทางการเรียนการสอนของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในพื้นที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 11 พบว่า รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทางการเรียนการสอนของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในพื้นที่สำนักงานศึกษาธิการภาค 11 มีความเหมาะสมโดยรวมมากที่สุด และผู้ที่เข้ารับการพัฒนามีดัชนีความก้าวหน้าในการพัฒนาภาวะผู้นำทางการเรียนการสอนของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 45.29
Article Details
References
จารุภัทร บุญส่ง. (2556). การพัฒนาตัวบ่งชี้ผู้นำทางการสอนของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
มะลิวรรณ ประวัง และคณะ. (2551). การพัฒนาภาวะผู้นำของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยนเรศวร.
รัชฎาพร พิมพิชัย. (2556). รูปแบบการพัฒนาภาวะครูผู้นำครูด้านการจัดการเรียนการสอนใน
โรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
รัตติยา พร้อมสิ้น. (2559). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นําครูในโรงเรียนประถมศึกษา. สังกัดสำนักงาน
ศึกษาธิการภาค 11. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
สร้อยสุดา กรีน. (2563).รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำครูในการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมศึกษา
สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 11. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). รายงานการประเมินโครงการยกระดับ
คุณภาพโรงเรียน. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน). (2562). เกณฑ์การ
ประกันคุณภาพการศึกษาภายนอก สมศ. http://www.eqdd.nu.ac.th/?page_id=214.
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2549) กฎหมายเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา.
กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2550). รายงานการสังเคราะห์สภาวการณ์และปัจจัยที่ส่งผล
ต่อคุณภาพการศึกษาไทย. กรุงเทพฯ : วี.ที.ซี. คอมมิวนิเคชั่น.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2563). แนวทางการพัฒนาระบบ
การประกันคุณภาพการศึกษาตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา
พ.ศ.2563. กรุงเทพฯ : เอ็น เอ รัตนะเทรดดิ้ง.
สิทธิชัย อุสาพรหม. (2562). ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อ
ประสิทธิผลการทำงานของกลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23. บัณฑิตวิทยาลัย :มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
Bossert, A. (1988). Leadership in organization. Eagle wood Cliffs, NJ: Prentice Hall.
David, G.A. & Thomus, M. A. (1989). Effective School and Effective Teachers.
Boston : Allyn and bacon.
Leithwood, K., & Jantzi, D. (2006). Transformational school leadership for large-scale
Reform : Effects on students, teachers, and their classroom practices.
School Effectiveness and School Improvement. 17(2), 20-227.