ปัจจัยทางจิตและสังคมที่สัมพันธ์กับภูมิคุ้มกันทางใจในการโดนกลั่นแกล้งรังแกบนโลกออนไลน์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

Main Article Content

จิตติมา ดีพันธ์
จิตราพร เบาแรง
ทิตยา สามสี
ณัชธีรนาฎ บิญรัตน์
ทิชากร กุลพิพัฒน์รัตน์
ธีระชน พลโยธา
ภิญญาพันธ์ เพียซ้าย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยทางจิต ได้แก่ การเห็นคุณค่าในตนเอง การมองโลกในแง่ดี และปัจจัยทางสังคม ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว โรงเรียน และเพื่อน ที่สัมพันธ์กับภูมิคุ้มกันทางใจในการโดนกลั่นแกล้งรังแกบนโลกออนไลน์ และ 2)เพื่อศึกษาอำนาจในการทำนายของปัจจัยทางจิตและปัจจัยทางสังคม ที่มีต่อการมีภูมิคุ้มกันทางใจในการโดนกลั่นแกล้งรังแกบนโลกออนไลน์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 300 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบชั้นภูมิ การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบวัดที่มีลักษณะเป็นมาตรประเมินค่า 6 ฉบับ ได้แก่ แบบวัดการเห็นคุณค่าในตนเอง การมองโลกในแง่ดี แบบวัดการสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว โรงเรียน และเพื่อน และแบบวัดการมีภูมิคุ้มกันทางใจในการโดนกลั่นแกล้งรังแกบนโลกออนไลน์และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบปกติ


ผลการวิจัยพบว่า 1) ตัวแปรต้นทุกตัวมีความสัมพันธ์กับภูมิคุ้มกันทางใจในการโดนกลั่นแกล้งรังแกบนโลกออนไลน์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 2) ปัจจัยทางจิต ได้แก่ การเห็นคุณค่าในตนเองและการมองโลกในแง่ดี ปัจจัยทางสังคม ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคมจาก ครอบครัว โรงเรียน และเพื่อน สามารถร่วมกันทำนายการมีภูมิคุ้มกันทางใจในการโดนกลั่นแกล้งรังแกบนโลกออนไลน์ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คิดเป็นร้อยละ 46.8  ตัวแปรที่มีความสำคัญมี 4 ตัวแปร ได้แก่ การเห็นคุณค่าในตนเอง การมองโลกในแง่ดี การสนับสนุนทางสังคมจากเพื่อน การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว  

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ดีพันธ์ จ., เบาแรง จ., สามสี ฑ. ., บิญรัตน์ ณ. ., กุลพิพัฒน์รัตน์ ท. ., พลโยธา ธ. ., & เพียซ้าย ภ. . (2021). ปัจจัยทางจิตและสังคมที่สัมพันธ์กับภูมิคุ้มกันทางใจในการโดนกลั่นแกล้งรังแกบนโลกออนไลน์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารมนุษยศาสตร์ปริทรรศน์, 43(1), 92–110. https://doi.org/10.1016/manutparitat.v43i1.249046
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กณิกาพร บุญชู. (2555). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเข้มแข็งทางใจของหญิงวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พึงปรารถนา
ในจังหวัดนครปฐม. วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. (จิตวิทยาชุมชน). นครปฐม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย
ศิลปากร.
จิตรภานุ ดำสนวน. (2560). ปัจจัยที่เป็นตัวพยากรณ์ภูมิคุ้มกันทางใจของวัยรุ่นในอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์.
วิทยานิพนธ์ พธ.ม. (พุทธจิตวิทยา). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
ชาญวิทย์ พรนภดล; ศิริสุดา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา; ตวงพร สุรพงษพิวัฒนะ; ชดาพิมพ์ ศศลักษณานนท์; และปาฏิโมกข์
พรหมช่วย. (2552). การศึกษาหาปัจจัยป้องกันการติดเกมในเด็กและวัยรุ่น. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
ไพศาล แย้มวงษ์. (2555). การศึกษาการสนับสนุนทางสังคมที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในชีวิตของนักศึกษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (จิตวิทยาการแนะแนว). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ฤติมา รักษารักษ์; และ งามลมัย ผิวเหลือง. (2558). อิทธิพลของการสนับสนุนทางสังคม การเห็นคุณค่าใน
ตนเองและการควบคุมตนเองที่มีต่อความหยุ่นตัวของนิสิตรอพินิจ. วิทยานิพนธ์ วท.ม. (สาขาวิชา
จิตวิทยาชุมชน). กรุงเทพฯ: คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
มะลิวรรณ วงษ์ขันธ์, พัชรินทร์ นินทจันทร์, และโสภิณ แสงอ่อน. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความแข็งแกร่งใน
ชีวิตในวัยรุ่น. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต. 29(1): 57-75.
วิมลทิพย์ มุสิกพันธ์; ศิวพร ปกป้อง; นันทนัช สงศิริ; และปองกมล สุรัตน์. (2552). พฤติกรรมการข่มเหงรังแกผ่าน
โลกไซเบอร์ของเยาวชนไทยเขตกรุงเทพมหานคร: รายงานผลการสำรวจประชามติครั้งที่ 3.
กรุงเทพฯ: ปัญญาสมาพันธ์เพื่อการวิจัยความเห็นสาธารณะ แห่งประเทศไทย.
ศรีเรือน แก้วกังวาล. (2540). จิตวิทยาพัฒนาการชีวิตทุกช่วงวัย. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สุคนธ์จิต อุปนันชัย. (2556). อิทธิพลของการสนับสนุนทางสังคม การเห็นคุณค่าแห่งตน และการรับรู้
ความสามารถของตนที่มีต่อความยืดหยุ่นทางอารมณ์ของนักเรียนในจังหวัดนนทบุรี. ปริญญานิพนธ์
กศ.ม. (จิตวิทยาพัฒนาการ). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
อรพินทร์ ชูชม; สุภาพร ธนะชานันท์; และทัศนา ทองภักดี. (2554). รายงานการวิจัยฉบับที่ 137 เรื่อง ปัจจัยเชิง
เหตุและผลของภูมิคุ้มกันทางจิตของเยาวชน. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ.
Agatston, P.W.; Kowalski, R.; & Limber, S. (2007). Students' Perspectives on Cyber Bullying.Journal of
Adolescent Health. 41: 59-60.
Hair, J.F.; Black, W.C.; Babin, B.J.; & Anderson, R.E. (2010). Multivariate Data Analysis. Seventh Edition.
Prentice Hall. Upper Saddle River: New Jersey.
Dooley, J. J.; Pyżalski, J.; & Cross, D. (2009). Cyberbullying versus Face-to-Face Bullying: A Theoretical
and Conceptual Review. Journal of Psychology. 217(4): 182–188.
Patchin, Justin W.; & Hinduja, Sameer. (2012). Cyberbullying Prevention and Response: Expert
Perspectives. New York: Routledge.
Rosenberg, M. (1965). Society and the Adolescent Self-image. Princeton. NJ: Princeton University Press.
................. 1981. "The Self-Concept: Social Product and Social Force." Pp. 593-624 in Social Psychology:
Sociological Perspectives, edited by M. Rosenberg and R.H. Turner. New York: Basic.
Scheier, M. F.; & Carver, C.S. (1985). Optimism Coping and Health: Assessment and Implications of
Generalized Outcome Expectancies. Retrieved Jan 20, 2021,
from https://doi.org/10.1037/0278-6133.4.3.219
Smith, P. K.; et al. (2008). Cyberbullying; Its Nature and Impact in Secondary School Pupils. Journal of
Child Psychology and Psychiatry. 49(4): 376-385.
Weber, N.L.; & Pelfrey, W.V. Jr. (2014). Cyberbullying: Causes Consequences and Coping Strategies.
Texas: LFB Scholarly Publishing.
World health Organization. (2015). Preventing Youth Violence: An Overview of the Evidence. Retrieved,
September 24, 2017, from http://apps.who.int/iris/bitstream/10665/181008/1/9789241509251_eng.pdf.