ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพงานตรวจสอบภายในมุมมองของผู้ตรวจสอบภายใน
คำสำคัญ:
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ;, ประสิทธิภาพงานตรวจสอบภายในบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบประสิทธิภาพงานตรวจสอบภายในตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ ช่วงอายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ และตำแหน่งงาน และ 2) ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพงานตรวจสอบภายใน เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรในการวิจัย ได้แก่ ผู้ตรวจสอบภายในที่อยู่ในกลุ่ม Social Media จำนวน 12,000 คน กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ตรวจสอบภายใน จำนวน 400 คน โดยใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือวิจัยคือแบบสอบถาม (Google Form) ที่มีค่าความเชื่อมั่น 0.95 (Cronbach’s Alpha) สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) พร้อม F-test และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพงานตรวจสอบภายใน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผู้ตรวจสอบภายในที่มีเพศ ช่วงอายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ด้านการตรวจสอบภายใน และตำแหน่งงานในปัจจุบัน มีผลต่อประสิทธิภาพงานตรวจสอบภายในแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 0.05
2. ปัจจัยที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อประสิทธิภาพงานตรวจสอบภายใน ได้แก่ การสนับสนุนของผู้บริหาร ความร่วมมือของผู้รับการตรวจสอบ ทักษะของผู้ตรวจสอบภายใน ความเป็นอิสระของผู้ตรวจสอบภายใน และการติดตามและประเมินผล โดยปัจจัยเหล่านี้ สามารถอธิบายความแปรปรวนของประสิทธิภาพงานตรวจสอบภายในโดยรวม ได้ร้อยละ 49.7 (Adjusted R² = 0.497) โดยเฉพาะในด้านคุณภาพที่สามารถอธิบายความแปรปรวนได้สูงสุดถึงร้อยละ 52.5 (Adjusted R² = 0.525) ในขณะที่ด้านปริมาณงาน เวลา และค่าใช้จ่าย มีการอธิบายความแปรปรวน ที่ร้อยละ 25.1, 53.3 และ 16.6 ตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
ณภัทร จิตต์เสรี. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของการตรวจสอบภายในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ปิยาภา สัมฤทธิ์เปี่ยม. (2566). การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของนายทหารตรวจสอบภายในสำนักงานตรวจสอบภายในทหารกองบัญชาการกองทัพไทย. (สารนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มาลีรัตน์ พัฒนตั้งสกุล และกนกศักดิ์ สุขวัฒนาสินิทธิ์. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลของการตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 6(1), 103-114.
เรืองฤทธิ์ มหามนตรี. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอมตะซิตี้ชลบุรี. (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
สมาคมผู้ตรวจสอบภายในสากล. (2567). มาตรฐานการตรวจสอบภายในระดับโลก. เข้าถึงได้จาก https://shorturl.asia/c4Ywh
สำนักงานการตรวจสอบภายใน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2565). กฎบัตรสำนักงานการตรวจสอบภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ 2566. เข้าถึงได้จาก http://audit.oop.cmu.ac.th/?page_id=249
Cronbach, L. J. (1970). Essentials of Educational Administration. (8th ed.). Boston: Allyn and Bacon.
Dyah, S., & Cris, K. (2019). The effects of competence, independence, audit work, and communication on the effectiveness of internal audit. Journal of Economics, Business, and Accountancy Ventura, 22(1), 39-47. https://doi.org/10.14414/jebav.v22i1.879
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, R. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale. New York: Wiley & Son.
Oktay, T., Stevens, J., & Baris, O. (2020). Internal audit effectiveness: Operationalization and influencing factors. Managerial Auditing Journal, 35(2), 238-271.
Peterson, E., & Plowman, E. G. (1989). Business organization and management. Homewood, IL: Richard D. Irwin.
Sawyer, L. B., Dittenhofer, M. A., & Scheiner, J. H. (1996). Sawyer’s internal auditing. (4th ed.). The Institute of Internal Auditors.
Ta, T. T., & Doan, T. N. (2022). Factors affecting internal audit effectiveness: 'Empirical evidence from Vietnam. International Journal of Financial Studies, 10(2), 37. https://doi.org/10.3390/ijfs10020037