การศึกษาสภาพและจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการส่งเสริมการอ่านสู่การปฏิบัติของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
การอ่าน, นโยบายการส่งเสริมการอ่านบทคัดย่อ
การศึกษาสภาพและจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการส่งเสริมการอ่านสู่การปฏิบัติของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จังหวัดอุบลราชธานี มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพและผลการดำเนินงานส่งเสริมการอ่านของ กศน.อำเภอ ในสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัดอุบลราชธานี 2) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานส่งเสริมการอ่าน ของ กศน.อำเภอ ในสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัดอุบลราชธานี และ 3) เพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายการส่งเสริมการอ่านให้กับสำนักงาน กศน.จังหวัดอุบลราชธานี การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน ประชากรในการวิจัย จำนวน 4 กลุ่ม คือ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอ ครู กศน.ตำบล และนักศึกษา รวมทั้งสิ้น 803 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา มี 3 แบบ คือ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง และการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าร้อยละ ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้ 1. สภาพการดำเนินงานส่งเสริมการอ่าน โดยรวมมีการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการที่กำหนดไว้อยู่ในระดับมาก 2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานส่งเสริมการอ่าน ได้แก่ นโยบายกระบวนการ/วิธีการ การกำกับดูแล/นิเทศติดตามละประเมินผล การสนับสนุนทรัพยากร กิจกรรม ด้านครูและบุคลากร นักศึกษา และชุมชน/ภาคีเครือข่าย 3. ข้อเสนอเชิงนโยบายการส่งเสริมการอ่าน ดังนี้ 3.1 ด้านการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ หน่วยงานต้นสังกัดควรมีนโยบายที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และทำความเข้าใจกับสถานศึกษา ให้เห็นความสำคัญกับการนำนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง 3.2 ด้านการบริหารการดำเนินงาน ควรจัดสรรงบประมาณ และทรัพยากรสนับสนุน เป็นการเฉพาะ โดยควรแยกจากงบประมาณส่วนอื่น และจัดสรรงบประมาณในการดำเนินงานให้เหมาะสมกับจำนวนประชากรในแต่ละพื้นที่ 3.3 ด้านบุคลากร ควรจัดให้มีบุคลากรรับผิดชอบด้านการส่งเสริมการอ่านโดยตรง ควรมอบหมายครูและบุคลากรในสถานศึกษาให้มีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงานร่วมกัน 3.4 ด้านการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการอ่าน ควรมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน ทุกประเภท หลากหลายรูปแบบให้กระจายไปสู่ชุมชน เพื่อกระตุ้นและจูงใจให้ประชาชนสนใจการอ่านมากขึ้น 3.5 ด้านภาคีเครือข่าย ควรจัดประชุมชี้แจงภาคีเครือข่ายให้เข้าใจนโยบาย และประโยชน์ ที่จะได้รับ ควรเปิดโอกาสให้ภาคีเครือข่ายร่วมวิเคราะห์ กำหนดนโยบาย และร่วมวางแผนการดำเนินงาน
เอกสารอ้างอิง
กรองกาญจน์ วัฒนสหโยธิน. (2549). แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านของห้องสมุดประชาชนอำเภอในเขตภาคตะวันออก. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. นนทบุรี.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2549). แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กัณฑพร กากแก้ว. (2555). รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ของศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี. (รายงานวิจัย). อุบลราชธานี: ม.ป.ท.
กาญจนา เชื่อมศรีจันทร์. (2552). ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ. สืบค้น 4 ตุลาคม 2561, จาก http://www.thaigoodview.com.
จิราวรณ อารยัน. (2556). การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านของครูบรรณารักษ์ห้องสมุดโรงเรียนในเขต จังหวัดปทุมธานี. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
ฉวีวรรณ คูหาภินันท์. (2542). การอ่านและการส่งเสริมการอ่าน. กรุงเทพฯ: ศิลปบรรณาคาร.
ธรรมพร แข็งกสิการ. (2549). การประเมินโครงการรักการอ่าน สานสู่ฝันของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครสวรรค์ เขต 1. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์: นครสวรรค์.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2549). เอกสารแนวทางการดำเนินงานปฏิรูปการเรียนการสอนตามเจตนารมณ์กระทรวงศึกษาธิการ “2549 ปี แห่งการปฏิรูปการเรียนการสอน แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน”. กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2842 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ.
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. นโยบายส่งเสริมการอ่าน. เอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2552. ณ ห้องประชุมกระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. (2562). ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562. กรุงเทพฯ: สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย.
สำนักงานอุทยานการเรียนรู้. (2551). โครงการวิจัย ทัศนคติ และพฤติกรรมการอ่านของคนไทย. กรุงเทพฯ:สำนักงานอุทยานการเรียนรู้.
สำลี รักสุทธี. (2553). สอนอย่างไรให้เด็กอ่านออก อ่านได้ อ่านคล่อง อ่านเป็น เขียนได้ เขียนคล่อง และเขียนเป็น. กรุงเทพฯ: พัฒนาศึกษา.
สุมาลี สังข์ศรี. (2555). การประเมินผลการนำนโยบายส่งเสริมการอ่านสู่การปฏิบัติระดับประถมศึกษาทั้งในโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน. (รายงานวิจัย). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
อาภาวรรณ โสภณธรรมรักษ์. สำรวจการอ่าน คนไทยยุคดิจิทัล. สืบค้น 19 เมษายน 2559, จาก http://www.thaihealth.or.th/Content/31159-สำรวจการอ่าน%20คนไทยยุคดิจิทัล.html
Digiovanna, Lisa Marie. (1994). The Importance of Recreational Reading and It’s Impact on Children’s Motivation, Attitude Towards Reading, as Well as Reading Achievement. (Masters Theses). Grand Valley State University.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการโรงเรียนนายเรือ ด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และ ศึกษาศาสตร์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการโรงเรียนนายเรือ ด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และ ศึกษาศาสตร์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของโรงเรียนนายเรือ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จากโรงเรียนนายเรือก่อนเท่านั้น
