Developing the 4 S Instructional Model for the Dramatic Arts Strand 3 in the Learning Area of Art for Prathom Suksa 5 Students

Authors

  • Wiwat Petsri Faculty of Education, Rambhai Barni Rajabhat University

Keywords:

4 s Instructional Model, Dramatic Arts, Prathom Suksa 5

Abstract

          The purposes of this study were (1) to study and analyze baseline data to develop the 4 s Instructional model for the Dramatic Arts Strand 3 in the learning area of art for Prathom Suksa 5 students in Saritdidet school, (2) to create and develop 4 S learning management model and
(3) to compare the students’ performance skills in Dramatic arts and their learning achievement before and after using the 4s Instructional model. The samples of this study was 50 Prathom Suksa 5/4 students in Saritdidet school, Muang Chanthaburi district, Chanthaburi province in the academic year of 2016 and was selected by using cluster random sampling. The instruments of this study consisted of lesson plans, a performance skills test, and a learning achievement test. The statistics used for data analysis were: mean and standard deviation.              

The research findings were as follows:

1.   The developed 4 S instructional model was effective. The model consisted of theories and basic concepts, principles of modeling, objectives, processes and procedures of learning management, atmosphere, components of learning management, and measurement and evaluation.

2.   The model was composed of 4 stages: Stage 1, Stimulus (presenting the stimulus); Stage 2,Start (preparation); Stage 3, Step (practice); and Stage 4, Star (presentation and evaluation,

3.   The results of the comparison of the students’ performance skills in Dramatic arts and their learning achievement before and after using the 4S instructional model revealed that the post-test scores of the students’ performance skills in Dramatic arts and their learning achievement were higher than the pre-test scores. The pre-test scores of the students’ performance skills in Dramatic arts had an average of 11.52, and the post-test scores had an average of 17.01, The pre-test scores of their learning achievement had an average of 6.76, and the post-test scores had an average of 14.58.

References

1. คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, สำนักงาน. ปฏิรูปการเรียนรู้ผู้เรียนสำคัญที่สุด. กรุงเทพฯ: คณะอนุกรรมการการปฏิรูปการเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2543.

2. ชนัย วรรณะลี. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทัศนคติต่อหน่วยการเรียนการสอนของนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, 2539.

3. บุญสม สุขุมาลพงษ์. พฤติกรรมการสอนของอาจารย์ผู้สอนวิชาเอกนาฏศิลป์ในสถาบันราชภัฏอุดรธานี ตามทัศนะของนักศึกษา. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, 2536.

4. บุษกร พรหมหล้าวรรณ. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียนวิชานาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ 4 MAT. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2549.

5. พจน์มาลย์ สมรรคบุตร. แนวการคิดประดิษฐ์ท่ารำเซิ้ง. อุดรธานี: ภาควิชานาฏศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์ สถาบันราชภัฏอุดรธานี, 2538.

6. รัตนะ บัวสนธ์. วิจัยและพัฒนา. พิมพ์ครั้งที่ 4. นครสวรรค์: โรงพิมพ์ริมปิง, 2554.

7. สมหวัง คุรุรัตนะ. เอกสารคำสอนการออกแบบและพัฒนากระบวนการสอน. กรุงเทพฯ: ภาควิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, 2539.

8. สุคนธ์ สินธพานนท์, วรรัตน์ วรรณเลิศลักษณ์ และพรรณี สินธพานนท์. พัฒนาทักษะการคิดพิชิตการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เลี่ยงเชียง, 2551.

9. สุจริต เพียรชอบ. การพัฒนาการสอนภาษาไทย. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2531.

10. สุภา พิมพาแป้น. การสร้างแบบฝึกพัฒนาความสามารถการเขียนเชิงสร้างสรรค์วิชาภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยบูรพา, 2546.

11. โสภา กิมวังตะโก. การสร้างหน่วยการเรียนการสอนเรื่องฉุยฉายพราหมณ์สำหรับนักศึกษาครู. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2533.

12. อติพร สุขสมนิตย์. อิทธิพลของลัทธิชาตินิยมที่มีต่อหลักสูตรและการเรียนการสอนวิชาดนตรี - นาฏศิลป์ ในระดับประถมศึกษาสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา, 2543.

13. อุษา สบฤกษ์. การศึกษาพฤติกรรมการสอนนาฏศิลป์ไทยในวิทยาลัยนาฏศิลป. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2536.

14. อัจฉรา ชีวพันธ์. กิจกรรมการเขียนเชิงสร้างสรรค์ในชั้นประถมศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช, 2535.

15. Joyce, B., and M. Weil. Model of teaching 7th ed. Englewood Cliffs, NJ: Prentice–Hall, 2004.

16. Saylor, J. G. Curriculum planning for better teaching and learning. 4thed. Japan: Holt–Saunders International Edition, 1981.

Downloads

Published

2018-06-30

How to Cite

Petsri, W. (2018). Developing the 4 S Instructional Model for the Dramatic Arts Strand 3 in the Learning Area of Art for Prathom Suksa 5 Students. Ubon Ratchathani Journal of Research and Evaluation, 7(1), 21–30. Retrieved from https://so06.tci-thaijo.org/index.php/ubonreseva/article/view/138414

Issue

Section

Research Articles