การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 S สาระที่ 3 นาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้แต่ง

  • Wiwat Petsri คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี

คำสำคัญ:

รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 s, นาฏศิลป์, ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

บทคัดย่อ

            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 S 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 S และ 3) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 S สาระที่ 3 นาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยการเปรียบเทียบทักษะปฏิบัติทางนาฏศิลป์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนที่ได้รับการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 S กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 S ได้แก่ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/4 โรงเรียนสฤษดิเดช อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ปีการศึกษา 2559 ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ แบบวัดทักษะปฏิบัติทางนาฏศิลป์และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

  1. ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 S ที่มีคุณภาพ ประกอบด้วยทฤษฎีและแนวคิดพื้นฐาน หลักการสำคัญของรูปแบบ วัตถุประสงค์ กระบวนการและขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ บรรยากาศ องค์ประกอบการจัดการเรียนรู้ การวัดประเมินผล
  2. ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 S มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 นำเสนอสิ่งเร้า (Stimulus) ขั้นที่ 2 ขั้นเตรียมความพร้อม (Start) ขั้นที่ 3 ขั้นฝึกปฏิบัติตามขั้นตอน (Step) ขั้นที่ 4 ขั้นนำเสนอผลงานและประเมิน (Star)
  3. ผลการเปรียบเทียบ ทักษะปฏิบัติทางนาฏศิลป์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพบว่ามีคะแนนก่อนเรียนสูงกว่าของกลุ่มตัวอย่าง โดยมีผลคะแนนทดสอบด้านทักษะปฏิบัติทางนาฏศิลป์ของผู้เรียนกลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ย 52 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 17.01 ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนกลุ่มตัวอย่าง ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย 6.76 หลังเรียน
    มีค่าเฉลี่ย 14.58

References

1. คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, สำนักงาน. ปฏิรูปการเรียนรู้ผู้เรียนสำคัญที่สุด. กรุงเทพฯ: คณะอนุกรรมการการปฏิรูปการเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2543.

2. ชนัย วรรณะลี. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทัศนคติต่อหน่วยการเรียนการสอนของนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, 2539.

3. บุญสม สุขุมาลพงษ์. พฤติกรรมการสอนของอาจารย์ผู้สอนวิชาเอกนาฏศิลป์ในสถาบันราชภัฏอุดรธานี ตามทัศนะของนักศึกษา. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, 2536.

4. บุษกร พรหมหล้าวรรณ. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียนวิชานาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ 4 MAT. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2549.

5. พจน์มาลย์ สมรรคบุตร. แนวการคิดประดิษฐ์ท่ารำเซิ้ง. อุดรธานี: ภาควิชานาฏศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์ สถาบันราชภัฏอุดรธานี, 2538.

6. รัตนะ บัวสนธ์. วิจัยและพัฒนา. พิมพ์ครั้งที่ 4. นครสวรรค์: โรงพิมพ์ริมปิง, 2554.

7. สมหวัง คุรุรัตนะ. เอกสารคำสอนการออกแบบและพัฒนากระบวนการสอน. กรุงเทพฯ: ภาควิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, 2539.

8. สุคนธ์ สินธพานนท์, วรรัตน์ วรรณเลิศลักษณ์ และพรรณี สินธพานนท์. พัฒนาทักษะการคิดพิชิตการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เลี่ยงเชียง, 2551.

9. สุจริต เพียรชอบ. การพัฒนาการสอนภาษาไทย. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2531.

10. สุภา พิมพาแป้น. การสร้างแบบฝึกพัฒนาความสามารถการเขียนเชิงสร้างสรรค์วิชาภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยบูรพา, 2546.

11. โสภา กิมวังตะโก. การสร้างหน่วยการเรียนการสอนเรื่องฉุยฉายพราหมณ์สำหรับนักศึกษาครู. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2533.

12. อติพร สุขสมนิตย์. อิทธิพลของลัทธิชาตินิยมที่มีต่อหลักสูตรและการเรียนการสอนวิชาดนตรี - นาฏศิลป์ ในระดับประถมศึกษาสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการประถมศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา, 2543.

13. อุษา สบฤกษ์. การศึกษาพฤติกรรมการสอนนาฏศิลป์ไทยในวิทยาลัยนาฏศิลป. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการอุดมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2536.

14. อัจฉรา ชีวพันธ์. กิจกรรมการเขียนเชิงสร้างสรรค์ในชั้นประถมศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช, 2535.

15. Joyce, B., and M. Weil. Model of teaching 7th ed. Englewood Cliffs, NJ: Prentice–Hall, 2004.

16. Saylor, J. G. Curriculum planning for better teaching and learning. 4thed. Japan: Holt–Saunders International Edition, 1981.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2018-06-30

How to Cite

Petsri, W. (2018). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 4 S สาระที่ 3 นาฏศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี, 7(1), 21–30. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/ubonreseva/article/view/138414