Development of a Measuring Test for a Basic Scientific Ability for Mattayomsuksa One Students According to the 2551 BE Basic Education Core Course under Si Sa Ket Primary Educational Service Area Office 1
Keywords:
ความสามารถพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์, หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551Abstract
The objectives of the research were 1) to develop a test to measure a scientific ability for Mattayom Suksa 1 students according to the 2551 BE Basic Education core course, 2) to find out the quality of the test to measure a scientific ability for Mattayom Suksa 1 students under Si Sa Ket Primary Educational Service Area Office 1 and 3) to construct norms and handbooks for using the test for a scientific ability.
The samples used in the research were 115 students MattayomSuksa1 students from the schools under Si Sa Ket Primary Educational Service Area Office 1, derived by a stratified random sampling. The research instruments consisted of a 30- item test for an environment understanding, a 30-item test for a reasoning process and 60 items for measuring an attitude towards science. Statistics used were mean, standard deviation, IOC, Pearson’s correlation coefficient, discrimination value and reliability value.
The research findings were as follows:
- A test for an environment understanding had a content validity ranging from 0.33-00; difficulty value ranged from 0.44-0.76 and discrimination value ranged from 0.32-0.96; Reliability was equivalent to 0.90; standard error was equivalent to 2.22
- A test for measuring a reasoning process had a content validity ranging from 0.33-1.00; difficulty value ranged from 0.36-0.72; discrimination value ranged from 0.32-0.77; confidence value was equivalent to 0.87; standard error was equivalent to 2.37 and norms ranged from T28 to T65
- A test item for measuring a science attitude had a content validity ranging from 0.33-1.00; discrimination and confidence value was equivalent to 0.98; statistics with significance ranged from 0.01-0.001; a standard error in measuring was equivalent to 2.78 and norms ranged from T14 to T66
- All the test items in the study had a content validity based on IOC ranging from 0.70-1.00 and a construct validity based on Pearson’s correlation coefficient in light of individual items and all items was related with statistical significance at 0.01 and 0.05.
References
กัลยา เอียดวาโย. การพัฒนาเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ, 2546.
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1, สำนักงาน. รายงานการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อการประกันคุณภาพของผู้เรียน ปีการศึกษา 2554. ศรีสะเกษ : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1, 2554.
คณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงาน. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554). กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2549.
จิตรลดา อารีย์สันติชัย. การพัฒนาเครื่องมือวัดลักษณะนิสัยรักการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ, 2546.
จิราภรณ์ ศิริทวี. “เทคนิคการจัดกิจกรรมให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้,” วารสารวิชาการ 1, 9 (กันยายน 2541) : 37-52.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7 กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น, 2545.
บุญเรียง ขจรศิลป์. วิธีการวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : พี.เอ็น.การพิมพ์, 2539.
พวงรัตน์ ทวีรัตน์. วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2540.
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. กรุงเทพฯ : เฮาส์ออฟเดอะมิสท์, 2552.
ภัทรา นิคมานนท์. การประเมินผลการเรียน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : บริษัทอักษราพิพัฒน์ จำกัด, 2543.
ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. เทคนิคการวัดผลการเรียนรู้. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น, 2543.
. สถิติวิทยาทางการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 3 กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น, 2540.
ระวีวรรณ อังคนุรักษ์พันธุ์. เอกสารคำสอนวิชา วผ 306 การวัดทัศนคติเบื้องต้น. ชลบุรี : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 2533.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. พระราชบัญญติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : พริกหวานกราฟฟิค, 2542.
. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.), 2551.
สำเริง บุญเรืองรัตน์. รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาความเที่ยงตรงและความเชื่อมั่น ด้วยทฤษฎีการสรุปอ้างอิง (Generalizability Theory) ของการวัดผลด้วยผลงานของตนเอง. กรุงเทพฯ : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2538.
สุธีรา ราษฎรินทร์. การพัฒนาเครื่องมือวัดทักษะชีวิตเกี่ยวกับการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ ในวัยเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ, 2547.
สุวัฒน์ นิยมค้า. ทฤษฎีและแนวทางในการสอนวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้เล่ม 1. กรุงเทพฯ :
เจเนอร์บุคเซนเตอร์, 2531.
อุทุมพร (ทองอไทย) จามรมาน. การสร้างและพัฒนาเครื่องมือวัดลักษณะผู้เรียน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : ฟันนี่พับลิชชิ่ง, 2541.
อุบล อุตมะมุณีย์. การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพสมองและความสามารถในการแก้ปัญหา ทางวิทยาศาสตร์กับบุคลิกภาพนักวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดสงขลา. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ, 2545.
อุไรวรรณ ชินพงษ์. การพัฒนาเครื่องมือวัดคุณลักษณะทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น ในเขตการศึกษา 2. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทักษิณ, 2544.
Collette, A.T. and Chiappetta, E. L. Science Instruction in the Middle and Secondary Schools. Columbus, Ohio : Columbus, Ohio : Charles E. Merrill Publishing Company, 1986.
Gable, R.K. Instrument Development in the Affective Domain. Boston : Kluwer-Nijhoff, 1986.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
1. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้ได้มีการตรวจสอบการลอกเลียนงานวรรณกรรมแล้ว ไม่เกินร้อยละ 25
2. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารนี้เป็นข้อคิดเห็น ข้อค้นพบของผู้เขียนบทความ โดยผู้เขียนบทความต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลทางกฎหมายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากบทความนั้น ๆ
3. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานีก่อนเท่านั้น และจะต้องมีการอ้างอิงวารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี ฉบับนั้น ๆ ด้วย