รูปแบบการพัฒนาศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
คำสำคัญ:
รูปแบบการพัฒนา, ศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ, การบริหารจัดการบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการพัฒนาศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง(2) สร้างและพัฒนารูปแบบการพัฒนาศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และ (3) ประเมินรูปแบบการพัฒนาศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R & D) ใน 3 ระยะได้แก่ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ ใช้วิธีการสำรวจและสัมภาษณ์เชิงลึกจากประชากร คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู จำนวน 845 คน ใน 145 โรงเรียน ระยะที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบเป็นขั้นตอนการร่างรูปแบบ ตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบด้วยการสนทนากลุ่มของผู้ทรงคุณวุฒิ และทดลองใช้รูปแบบตามคู่มือการใช้รูปแบบ ระยะที่ 3 การประเมินรูปแบบ เป็นขั้นตอนประเมินรูปแบบด้วยการประชุมกลุ่มของผู้ทรงคุณวุฒิ ปรับปรุงและนำเสนอรูปแบบที่สมบูรณ์ ในการวิจัยนี้เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถาม
แบบสัมภาษณ์ และแบบประเมิน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า (1) ผู้บริหารสถานศึกษาและครูมีความคิดเห็นต่อสภาพปัจจุบันของการพัฒนาศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างทุกด้าน อยู่ในระดับมาก (= 4.06) และสภาพที่พึงประสงค์ทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.57)(2) รูปแบบการพัฒนาศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ มีองค์ประกอบการบริหารจัดการ จำนวน 4 ด้าน 50 ตัวบ่งชี้ ประกอบด้วย ด้านภาวะผู้นำทางวิชาการ ด้านการจัดครูผู้สอนปฐมวัย ด้านการจัดโครงสร้างและระบบการบริหารจัดการ และด้านการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการของผู้ปกครองและชุมชน มีกระบวนการของรูปแบบ 2กระบวนการ ได้แก่1) วิธีการแห่งศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน2)วงจรบริหารงานคุณภาพของเดมมิ่ง(Deming Cycle)(3) รูปแบบการพัฒนาศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (= 4.29, = 4.23) ตามลำดับ และความเป็นประโยชน์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.61)
References
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. ( 2551). ทักษะทางสังคม พื้นฐานการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข. กรุงเทพฯ : แม่และเด็ก.
กุลยา ตันติผลาชีวะ. (2551). รูปแบบการเรียนการสอนปฐมวัยศึกษา.กรุงเทพฯ :เบรน- เบสบุ๊คส์.
จิ
ราภาบูรณะ. (2557). การบริหารโรงเรียนที่เป็นศูนย์ต้นแบบปฐมวัยในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1. ปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์
จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.
จีรนันท์ เกิดม่วง. (2558). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับบทบาทการบริหารงานวิชาการด้านการจัดการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1. ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
ชาญชัย อาจินสมาจาร. (2550). ภาวะผู้นำในองค์การ. กรุงเทพฯ : ปัญญาชน.
ณรงค์ ชูศรีชัย. (2556). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี.
วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
ดิเรก พรสีมา. (2554). แนวทางการพัฒนาวิชาชีพครู. (เอกสารอัดสำเนา).
ดิเรก ฤกษ์หร่าย. (2554). ทฤษฎีและแนวทางการพัฒนาสังคม ในประมวลชุดวิชาสังคมไทยกับการบริหารการส่งเสริมและการพัฒนาการเกษตร. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช.
ธีระ รุญเจริญ. (2553). ความเป็นมืออาชีพในการจัดและบริหารการศึกษายุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ : ข้าวฟ่าง.
นริสานันท์ เดชสุระ. (2552). รูปแบบการบริหารโรงเรียนสาธิตปฐมวัยของมหาวิทยาลัยราชภัฎ.ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษาภาควิชาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
นิรันดร์ จงวุฒิเวศย์. (2550). แนวคิดแนวทางการพัฒนาชุมชน. กรุงเทพฯ:กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย.
บุญมี ก่อบุญ. (2553). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทีมของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาภาวะผู้นำทางการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
เบญจนารถ อมรประสิทธิ์. (2558). รูปแบบการบริหารสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรปีที่ 17 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม – กันยายน 2558.
ปณิตา วรรพิรุณ. (2551). การพัฒนารูปแบบการเรียนบนเว็บแบบผสมผสาน โดยใช้ปัญหาเป็นหลักเพื่อพัฒนาการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนิสิตปริญญาบัณฑิต. วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปาริชาติ ชมชื่น. (2555). รูปแบบการบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนที่มีประสิทธิผลในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา.วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาผู้นำการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
ฤทัยทรัพย์ ดอกคำ. (2553). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียน.วิทยานิพนธ์ ค.ม.พระนครศรีอยุธยา มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา.
วรากรณ์ สามโกเศศ และคณะ. (2553). ข้อเสนอระบบการศึกษาทางเลือกที่เหมาะสมกับสุขภาวะคนไทย. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์
ศิริอร ขันธหัตถ์. (2547). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ทิพยวิสุทธิ์.
ศิริพร ศรีอินทร์สุทธิ์. ( 2558). แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการบริหารจัดการศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ.ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต การบริหารการศึกษา.บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สมคิด บางโม. (2553). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ : วิทยาพัฒน์.
สมเดช สีแสง. (2553). คู่มือการบริหารโรงเรียน. นครสวรรค์ : หจก.ริมปงการพิมพ์.
สัมฤทธิ์ กางเพ็ง. (2551).การพัฒนาและการตรวจสอบความตรงของตัวแบบ. ดุษฎีนิพนธ์ กศ.ด.การบริหารการศึกษาบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สุธาสินี สว่างศรี. (2554). การพัฒนาภาวะผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสารของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาภาวะผู้นำทางการบริหาร
การศึกษา บัณฑิตวิทยาลัมหาวทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2556). คู่มือดำเนินการประเมินศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบปีการศึกษา 2556. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
------------------- (2558). รายงานผลการประเมินโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดโรงเรียนศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบโรงเรียนศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบเครือข่าย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน.(2559). ก้าวแรกที่เท่าเทียม จากเรื่อง Giving Kids a Fair Chance โดยJames J. Heckman. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์โอเพ่นเวลด์ส.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2548). แนวดำเนินงานศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
Adams, D.N. & Hamm, M.E. (1990). Cooperative learning - Critical thinking and Collaboration across the curriculum. Springfield, IL: Charles C Thomas.
Bardo, J. W. &Hartman, J. J. (1982). Principles of Urban Sociology: A Systematic Introduction. New York: F.E. Peacock.
Bastiani, J. (1990). Parents as Partners : Genuine Progress or Emty Rhetoric?. Parents and Schools : Customers, Managers or Partners ?.Edited by Pamela Munn.London :
Routledge.
Bean, J. C. (1996). Engaging Ideas: The Profession’s Guide to investigating writing,Criticalthinking, and active learning in classroom. San Francisco: Jossey-Bass.
Brown, W. and Moberg, D. J. (2010). Organization Theory and Management: A Macro Approach. New York: Wiley & Sons, 1980.
Fink, E., & Resnick, L. B. (2001). Developing principals as instructional leaders. Phi Delta Kappan, 82(8), 598–606.
Halverson, R. (2007). A distributed leadership perspective on how leaders use artifacts to create professional community in schools. In L. Stoll and K. S. Louis (Eds.) Professional learning communities: Divergence, detail and difficulties. Maidenhead: Open University Press..
Kimbrough, Ralph. A. & Nunnery, Michael. Y. (1976). Education Adminstration. Mc. Millan : Publishing Co.
McGregor, J. (2008). The World’s Most Innovative Companies. Bloomberg BusinessWeek. (April). Retrieved January 11, 2009 from. http://www.businessweek.com/magazine/ content/08_17/ b4081061866744.html.
Moorhead, G. & Griffin, R.W. (1995). Organizational behavior. (4th ed.). Boston : Houghton Mifflin.