รูปแบบองค์กรแห่งการเรียนรู้ของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย
คำสำคัญ:
รูปแบบ, องค์กรแห่งการเรียนรู้, ธุรกิจประกันวินาศภัยบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยภายในองค์กรที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของธุรกิจ
ประกันวินาศภัยในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยภายในองค์กรที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียน
รู้กับผลการดำเนินงานที่ไม่ใช่ตัวเงินของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเป็นองค์กร
แห่งการเรียนรู้กับผลการดำเนินงานที่ไม่ใช่ตัวเงินของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย และ 4) เพื่อนำเสนอรูปแบบองค์กรแห่ง
การเรียนรู้ของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย โดยการวิจัยครั้งนี้เป็นการทดสอบความสัมพันธ์ที่มีผลต่อผลการดำเนินงานที่
ไม่ใช่ตัวเงินของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย การวิจัยครั้งนี้ เป็นวิธีวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ในการวิจัยเชิงปริมาณ
ผู้วิจัยเก็บข้อมูลจากผู้บริหารบริษัทประกันวินาศภัยในประเทศไทย จำนวน 400 คน จาก 54 บริษัท และใช้แบบสอบถามแบบ มาตร
ประมาณค่า 5 ระดับ ที่ผ่านการหาความเที่ยงตรงซึ่งมีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามและวัตถุประสงค์ตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป
และผ่านการหาค่าความเชื่อมั่น โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ 0.982 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบ
ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติอ้างอิงจะใช้สถิติอ้างอิง
แบบไม่มีพารามิเตอร์ ได้แก่ ค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์และการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง โดยใช้โปรแกรม AMOS ส่วนการ
วิจัยเชิงคุณภาพได้ทำการสัมภาษณ์ผู้ให้ ข้อมูลสำคัญซึ่งเป็นผู้บริหารที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นองค์กร
แห่งการเรียนรู้ของบริษัทประกันวินาศภัยจำนวน 4 คน และสัมภาษณ์เชิงลึกผู้เชี่ยวชาญด้านองค์กรแห่งการเรียนรู้ จำนวน 4 คน
ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหางานวิจัยเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยภายในองค์กรที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียน
รู้ของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย ได้แก่ ปัจจัยภาวะผู้นำ ปัจจัยองค์กร ปัจจัยการจัดการความรู้ ปัจจัยการเรียนรู้ และ
ปัจจัยเทคโนโลยี โดยรวมผู้บริหารมีความคิดเห็นว่าปัจจัยต่าง ๆ มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อยู่ในระดับมากทุกปัจจัย
2) ผู้บริหารมีความคิดเห็นว่าองค์ประกอบของการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ได้แก่ พลวัตรการเรียนรู้ การปรับเปลี่ยนองค์กร
การเอื้ออำนาจ การจัดการความรู้ และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ ล้วนมีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของธุรกิจประกัน
วินาศภัยในประเทศไทยโดยมีค่าเฉลี่ยความคิดเห็นเกี่ยวกับการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทยอยู่ที่
ระดับมากในทุกด้าน 3) ปัจจัยภายในองค์กร ที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้มีความสัมพันธ์กับผลการดำเนินงานที่ไม่ใช่ตัว
เงินของธุรกิจประกัน วินาศภัยในประเทศไทยอยู่ในระดับปานกลางอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับสูง โดยปัจจัยด้านการเรียนรู้มีความสัมพันธ์
ต่อผลตอบแทนที่ไม่ใช่ตัวเงินของธุรกิจประกันวินาศภัยสูงที่สุด รองลงมา คือ ปัจจัยด้านเทคโนโลยี ปัจจัยด้านการจัดการความรู้ ปัจจัย
ด้านองค์กร และปัจจัยด้านภาวะผู้นำ ตามลำดับ 4) การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ด้านต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กับผลการดำเนินงานที่
ไม่ใช่ตัวเงินของธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทยอยู่ในระดับปานกลางอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับสูง โดยด้านการจัดการความรู้มีความ
สัมพันธ์ต่อผลตอบแทนที่ไม่ใช่ตัวเงินของธุรกิจ ประกันวินาศภัยสูงที่สุดรองลงมา คือ ด้านพลวัตรการเรียนรู้ ด้านการนำเทคโนโลยีมา
ประยุกต์ใช้ ด้านการเอื้ออำนาจ และด้านการปรับเปลี่ยนองค์กร ตามลำดับ และ 5) ปัจจัยภายในองค์กรทั้ง 5 ปัจจัยมีผลต่อการเป็น
องค์กรแห่งการเรียนรู้และมีผลต่อผลการดำเนินงานที่ไม่ใช่ตัวเงิน โดยรูปแบบขององค์กรแห่งการเรียนรู้มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิง
ประจักษ์ (ค่า Chi-square = 276.488 ค่าองศาอิสระ (DF) = 180 ค่า P = 0.201 ค่าดัชนี GFI = 0.928 และดัชนี RMSEA = 0.043)