การจัดระบบและอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานโดยบูรณาการกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในจังหวัดบุรีรัมย์
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระบบและอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 5 แหล่ง ผลการวิจัยพบว่า คัมภีร์ใบลานเคยผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน การชำรุดทรุดโทรมจึงปรากฏขึ้นในลักษณะที่แตกต่างกัน คือ ใบลานขาดหาย ผุพัง กรอบเปราะ ฉีกขาด มีร่องรอยของแมลงกัดกินและมีเชื้อรา ส่วนคัมภีร์ใบลานที่ยังมีสภาพดีอยู่ก็มักมีแนวโน้มที่จะชำรุดเสื่อมสภาพลงทุกขณะ งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการจัดระบบแยกหมวดหมู่ของคัมภีร์ใบลานและบูรณาการองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานตามหลักวิชาการดังต่อไปนี้ 1) การรวบรวมคัมภีร์ใบลานทั้งหมดในวัดหรือสถานที่ที่ทำการสำรวจ ตรวจดูคัมภีร์ใบลานเบื้องต้นที่ต้องสำรวจ 2) แยกคัมภีร์ใบลานในมัดที่ครบชุดไว้ต่างหากจากคัมภีร์ใบลานที่แตกผูก 3) นำคัมภีร์ใบลานที่ไม่ครบชุดนั้นมาจัดเรียงไว้ เพื่อหาผูกที่เป็นชุดเดียวกัน โดยนำเอาคัมภีร์ใบลานทั้งหมดมาเรียงกันเพื่อเทียบเคียงหาคัมภีร์ใบลานชุดเดียวกัน 4) การอนุรักษ์ ทำความสะอาดโดยการบูรณาการกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นการเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรก รอยเปื้อนต่างๆ เมื่อเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยและรอให้แอลกอฮอล์ระเหยแห้งหมด ก็ทำการเช็ดด้วยน้ำมันยูคาลิปตัสเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อคืนความยืดหยุ่นหรือความเหนียวของใบลานให้กลับมาบ้าง และยังช่วยป้องกันไม่ให้แมลงกัดกินใบลานได้ 5) บันทึกข้อมูลลงทะเบียนคัมภีร์ใบลาน ทำให้ทราบจำนวนและชื่อเรื่องของเอกสารที่มีอยู่ ส่วนข้อมูลอื่นๆ ก็จะบอกถึงชื่อเอกสาร ชื่อผู้จาร หมวดหมู่ สภาพ อายุ จำนวนหน้าลาน ข้อความท้ายใบลาน 6) การห่อผ้าและมัดคัมภีร์ใบลาน เริ่มต้นที่มุมผ้าหรือกึ่งกลางตรงริมผ้า แล้วม้วนไปเรื่อย ๆ พอได้ระยะหนึ่งก็เก็บมุมผ้าให้เรียบร้อย แล้วม้วนต่อไป หลังจากม้วนจนหมดผ้าแล้วก็นำใบปะหน้าที่บอกข้อมูลเบื้องต้นของคัมภีร์ใบลานมาร้อยเชือกแล้วก็มัดคัมภีร์ใบลานเป็นช่องสี่เหลี่ยม 3 - 6 ช่อง ตามแต่ขนาดความยาวของใบลาน ซึ่งการมัดจะมัดแบบโบราณ คือ “ตรีสิงเห” 7) สรุปบัญชีรายชื่อของคัมภีร์ใบลานที่ได้จัดระบบ เพื่อให้วัดหรือสถานที่ที่ไปจัดระบบคัมภีร์ใบลานเก็บไว้ ในเอกสารสรุปบัญชีรายชื่อคัมภีร์ใบลานจะประกอบไปด้วย ชื่อเรื่อง หมวดหมู่ ลักษณะตัวอักษร จำนวนผูก ลักษณะเอกสาร และสภาพใบลาน
คำสำคัญ : อนุรักษ์ จัดระบบเอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน จังหวัดบุรีรัมย์
Article Details
ลิขสิทธิ์ของบทความเป็นของวารสาร การพิมพ์ซ้ำจะต้องได้ร้บการอนุญาตจากบรรณาธิการวารสาร
References
Ariyanuwat Khemacari, Phra. (1976). Suphrom mokkha (in Thai) [Subrahmamokkha]. Mahasarakham: The Conservation Center for Literature in the Northeast of Wat Mahachai, Maha Sarakham province.
Nathalang, E. (2001). Phumpanya isan (in Thai) [Isan wisdom]. (2nd ed.). Bangkok :
Amarin.
Prasertsang, P. (2014). Laksana kan nam sanoe lae bot sathon sangkhom nai
wannakam chadok phuenban isan khong phra ariyanu wat
khemachari (in Thai) [Characteristics of Presentation and Reflection on
Sociol-culture in the Isan local Jataka literature of Phra Ariyanuwat
Khemacari] (Master’s thesis). Mahasarakham University, Mahsarakham.
Punnothok, T. (1997). Akson boran isan : akkharawitthaya akson tua tham lae
thainoi (in Thai) [Ancient Isan scripts : Paleography of Tham and Thai Noi].
Bangkok : Siam Press Management.
Rawarin, N. (2011 ). Ekkasan bai lan: kan anurak phuea chai prayot Lae ekkasan
samkhan ekkalak thang phasa lae kan fuenfu phumpanya thongthin
(in Thai) [Palm leaf Manuscript : Conservation for use and Important
documents in language Identity and restoration of local wisdom]. In
Conservation, Restoration, Integration (pp.61- 62). Mahasarakham:
Aphichat Printing.
Thamwat, J. (1994). Wannakam thongthin: isan - lanchang (in Thai) [Local
literature: Isan-Lan Chang]. Maha Sarakham. Mahasarakham University.
Tipitaka (DTP). (2014). Khamphi bai lan rat ruam suep sat lae chatthai (in Thai)
[The Palm Leaf Manuscript with citizen’s participation in heritage of
Religion and Thai nation]. Yoo Nai Boon Magazine (Online), No. 136.
Retrieved fromhttp://www.kalyanamitra.org/en/uniboon_detail.
php?page=1936
Wanna-udon, S. (2004). Baep rian akson tham isan (chabap prapprung )
(in Thai) [Tham Isan Textbook (Rev. ed.)]. Maha Sarakham : Aphichat
Printing.
Weeraprachak, K & Unnatharawarangkun, W. (1984). Khamphi bai lan chabap
luang nai samai rattanakosin (in Thai) [Royal edition of Palm leaf
manuscript in the Rattanakosin period]. Bangkok: National Library of
Thailand, Fine Arts Department.