ความคิดเห็นของผู้ปกครองที่มีต่อการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนโรงเรียนวัดทุ่งหล่อ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้ปกครองที่มีต่อการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียน โรงเรียนวัดทุ่งหล่อ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนโรงเรียนวัดทุ่งหล่อ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ของผู้ปกครอง ที่มีเพศ อายุ อาชีพ และรายได้ต่อเดือน ต่างกัน 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียน โรงเรียนวัดทุ่งหล่อ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชากร ได้แก่ ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนวัดทุ่งหล่อ จำนวน 309 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตาราง Krejcie และ Morgan ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 169 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม แบบปลายปิดและแบบปลายเปิด วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t - test ค่า F - test และทดสอบความแตกต่างค่าคะแนนเฉลี่ยรายคู่ โดยวิธี LSD (Least Significant Difference)
ผลการวิจัยพบว่า
1) ความคิดเห็นของผู้ปกครองที่มีต่อการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนโรงเรียนวัดทุ่งหล่อ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า โดยรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านฉันทะ ความพอใจรักใคร่ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือด้านวิมังสา มีปัญญาใคร่ครวญหาเหตุผล ด้านจิตตะ ความเอาใจฝักใฝ่ ส่วนด้านวิริยะ ความเพียรพยายาม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด เมื่อจำแนกตามเพศ อายุ อาชีพ และรายได้ต่อเดือน พบว่า โดยรวม อยู่ในระดับมาก
2) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนโรงเรียนวัดทุ่งหล่อ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ของผู้ปกครอง ที่มีเพศ อายุ อาชีพ และรายได้ต่อเดือนต่างกัน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001
3) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 ของนักเรียนโรงเรียนวัดทุ่งหล่อ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัญหา คือนักเรียนบางคนมีใจรักในการศึกษาให้ได้ผลดีน้อยมาก นักเรียนบางคนไม่ค่อยพยายามค้นคว้าหาความรู้ บางคนไม่ค่อยเอาใจใส่ในการเรียนเท่าที่ควร นับางคนไม่ค่อยมีเหตุผลในทุก ๆ เรื่อง ได้เสนอแนวทางแก้ไข คือ ควรมีกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนตั้งใจศึกษาโดยการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ ควรมีการให้รางวัลแก่นักเรียนที่มีความพยายามในการศึกษาเล่าเรียน ควรพานักเรียนไปทัศนศึกษานอกสถานที่ ควรสอดแทรกกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างการคิดค้นที่หลากหลายให้กับนักเรียน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
คะนึงเดช แก้วขวัญ. (2550). สัมฤทธิ์ผลในการใช้อิทธิบาท 4 ในการปฏิบัติงาน : ศึกษาเฉพาะกรณี พนักงานส่วนตำบล อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช. ใน สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
จิรกิตต์ภณ พิริยสุวัฒน์. (2551). ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการประยุกต์ใช้พุทธธรรมของนักการเมืองท้องถิ่น : ศึกษาเฉพาะกรณีองค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตอำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย. ใน สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
ปิ่น มุทุกันต์. (2518). บันทึกธรรม ฉบับสมบูรณ์. คลังวิทยา: กรุงเทพมหานคร.
ฝ่ายวิชาการโรงเรียนวัดทุ่งหล่อ. (2552). รายงานข้อมูลพื้นฐาน. นครศรีธรรมราช: โรงเรียนวัดทุ่งหล่อ.
พระธรรมปิฎก, (ป.อ.ปยุตฺโต). (2543). พุทธธรรม. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระราชธรรมนิเทศ, (ระแบบ ฐิตญาโณ). (2537). นิเทศธรรม. กรุงเทพมหานคร: วัดบวรนิเวศวิหาร.
วนิตย์ ไหมสุวรรณ. (2552). การนำหลักอิทธิบาทธรรมไปใช้ในการศึกษาของนักเรียนวิทยาลัยการอาชีพเวียงสระ อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี. ใน สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
วสันต์ เภรีริด. (2551). การดำเนินชีวิตตามหลักอิทธิบาทธรรมของบุคลากรในสังกัดสำนักงานคุมประพฤติ ภาค 8. ใน สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
สุกิจ มลสวัสดิ์. (2552). การปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 ในการศึกษาของนักเรียนโรงเรียนพระบรมธาตุพิทักษ์วิทยา อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช. ใน สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา. มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
สุรินทร์ นินทสี. (2551). การดำเนินชีวิตประจำวันตามหลักอิทธิบาทธรรมของนักเรียน ช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนวัดควนส้าน อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช. ใน สาขาวิชาพุทธศาสนาและปรัชญา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย.
