ปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าเป็นตำรวจ : ศึกษาเฉพาะกรณีนักเรียนนายสิบตำรวจของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐม

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์  1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าเป็นตำรวจของนักเรียนนายสิบตำรวจของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐม  2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าเป็นตำรวจของนักเรียนนายสิบตำรวจของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐม จำแนกตามอายุ วุฒิการศึกษา  อาชีพของบิดามารดา  และรายได้ต่อเดือนของครอบครัว และ 3) เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าเป็นตำรวจของนักเรียนนายสิบตำรวจของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค  7 จังหวัดนครปฐม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบบสอบถามจากนักเรียนนายสิบตำรวจของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค  7  จังหวัดนครปฐมโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่าง  จำนวน 123 นาย  แล้วใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับฉลาก วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติการบรรยาย  คือ  ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย  ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และสถิติอนุมานคือการทดสอบค่า (t-test) การทดสอบความแปรปรวนแบบทางเดียว (One – Way ANOVA) หากพบความแตกต่างจะทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe) แล้วนำมาวิเคราะห์และประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์

ผลการวิจัยพบว่า

1. นักเรียนนายสิบตำรวจที่มีความคิดเห็นโดยรวมทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ด้านค่านิยมและการยอมรับทางสังคม 2) ด้านความก้าวหน้าในอาชีพ 3) ด้านสวัสดิการและค่าตอบแทน และ 4) ด้านจริยธรรมและคุณธรรมอยู่ในระดับเห็นด้วย แต่เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าเป็นนักเรียนนักเรียนนายสิบตำรวจอยู่ในระดับเห็นด้วยเช่นกัน

2.ผลการเปรียบเทียบ พบว่า นักเรียนนายสิบตำรวจที่มีอายุ วุฒิการศึกษา อาชีพของบิดามารดา และรายได้ต่อเดือนของครอบครัวแตกต่างกัน มีปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐม โดยรวมทั้ง 4 ด้านไม่แตกต่างกัน เมื่อแยกทดสอบในแต่ละด้านพบว่า นักเรียนนายสิบตำรวจที่มีรายกได้ต่อเดือนของครอบครัวแตกต่างกันมีปัจจัยต่อการเข้าเป็นตำรวจด้านจริยธรรมและคุณธรรมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.นักเรียนนายสิบตำรวจของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 จังหวัดนครปฐมได้เสนอแนะแนวทางส่งเสริมปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าเป็นตำรวจที่สำคัญคือ 1) ส่งเสริมให้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนามากขึ้นมีการฝึกนั่งสมาธิวิปัสนากรรมฐาน 2) ปลูกจิตสำนึกไม่ขูดรีดทรัพย์สินในการปฏิบัติหน้าที่มีความซื่อสัตย์ 3) ส่งเสริมให้ตำรวจคิดดี พูดดี ต่อประชาชนทุกคนเสมอภาคกัน และ 4) ให้โอกาสในการศึกษาอบรมหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อการเลื่อนขั้น