รูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและกำหนดกรอบกิจกรรมการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ 2. เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ 3. เพื่อนำรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในไปใช้ในการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของ โรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ และ 4. เพื่อประเมินความพึงพอใจของรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 13 คน เครือข่ายผู้ปกครอง จำนวน 9 คน คณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 9 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 31 คน ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามกระบวนการของการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัย ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต แบบทดสอบ แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสานวิธี (mixed methods) โดยเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณและข้อมูลเชิงคุณภาพ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) ค่าเฉลี่ย (mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviations) และนำเสนอผลการวิจัยโดยพรรณนาความ
ผลการวิจัยพบว่า
รูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนเทศบาลวัดกู่คำ จังหวัดเชียงใหม่ โดยภาพรวม ครูและบุคลากรทางการศึกษาขาดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการประกันคุณภาพภายใน ขาดผลการประเมินความสำเร็จตามเป้าหมายของการดำเนินงาน ขาดการจัดทำฐานข้อมูล เครื่องมือสำหรับการประเมินความสำเร็จ ทั้งด้านผู้เรียน ด้านครู และด้านผู้บริหาร
ผลการพัฒนารูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายใน พบว่า ผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจ มีประสิทธิภาพในการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาสูงขึ้น ผู้บริหารสามารถกำหนดโครงสร้างการบริหารงานอย่างเป็นระบบ สร้างวัฒนธรรมที่เป็นแบบอย่างที่ดีกับองค์กร เข้าใจบริบทของสถานศึกษา รับฟังความคิดเห็น เปิดโอกาสให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ร่วมกัน กำหนดและเสนอแนะแนวทางพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยใช้มาตรฐานตัวบ่งชี้เป็นหลัก
ผลการนำรูปแบบการพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในไปใช้ในการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน พบว่า บุคลากรทุกคนตระหนักในคุณค่า และความสำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษา มีความเข้าใจในการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของโรงเรียน ครูมีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ได้อย่างเกิดประสิทธิผล และมีความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินงานให้ตรงตามมาตรฐานของสถานศึกษาและการประกันคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง ผลการประเมินความพึงพอใจของบุคลากรต่อผลการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน พบว่า โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ทุกด้านมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจ ต่อการมีส่วนร่วมในพัฒนากลยุทธ์การประกันคุณภาพภายในของบุคลากร พบว่า บุคลากรมีความพึงพอใจก่อนการใช้รูปแบบ อยู่ในระดับปานกลาง และหลังการใช้รูปแบบมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ชนิตา พลายแก้ว. (2562). ทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน. ใน วิทยานิพนธ์ตามหลักสูตรปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. คณะครุศาสตร์: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
นริศ เชื้ออ่ำ. (2556). การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
ไพรวัล จันทรรัตนา. (2552). ความพึงพอใจของลูกค้าต่อการให้บริการของธนาคารออมสินสาขา จังหวัดสงขลา. ใน ภาคนิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิตมหาบัณฑิตสาขาพัฒนาสังคม. คณะพัฒนาสังคม: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
วิชัย เจริญพระธรรมดี. (2555). การพัฒนารูปแบบการประกันคุณภาพภายในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น.
Silman Fatos. (2012). A Study on Quality Assurance Activities in Higher Education in North Cyprus. Buckingham: Open University Press.