รูปแบบการบริหารจัดการอารยสถาปัตย์ของวัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

บทคัดย่อ

วิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความเห็น เปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชน ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ เป็นการวิจัยเชิงสำรวจจากแบบสอบถามกับประชาชนตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จำนวน 372 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนาเรียบเรียงและจำแนกอย่างเป็นระบบ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประชาชนมีความคิดเห็นโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
2. ปัจจัยส่วนบุคคลต่างกันมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย
3. ปัญหา อุปสรรค คือ บริเวณราวจับในห้องน้ำมีขนาดกว้างเกิน พื้นที่ในการใช้งาน ป้ายสัญลักษณ์แสดงสถานที่ต่าง ๆ มีจำนวนน้อย ไม่มีสัญลักษณ์แสดงประเภทสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และคนใช้รถเข็นวีลแชร์ ภายในห้องน้ำไม่มีปุ่มสัญญาณฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก และพื้นที่ในห้องน้ำสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และคนใช้รถเข็นไม่ได้ตามมาตรฐานสากล ข้อเสนอแนะคือทางวัดควรใช้ราวจับที่ติดผนังแบบพับเก็บได้ ไม่เกินพื้นที่ เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน ควรมีราวจับด้านข้างเพื่อช่วยเรื่องการทรงตัวของผู้ใช้งาน ทางวัดควรเพิ่มป้ายแสดงสัญลักษณ์ที่เข้าใจง่ายตามหลักสากล ควรเพิ่มสัญญาลักษณ์หรือตัวอักษรแสดงประเภทของสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และคนใช้รถเข็นวีลแชร์ ปรับพื้นป้ายเป็นสีน้ำเงินหรือสีขาวสลับกัน ควรมีปุ่มสัญญาณฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกติดตั้งไว้ภายในห้องน้ำ ควรใช้ก๊อกน้ำเป็นชนิดก้านโยก หรือระบบอัตโนมัติ พื้นที่ภายในห้องน้ำสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และคนใช้รถเข็น ควรมีพื้นที่ที่กว้าง เพื่อให้รถเข็นหมุนตัวกลับได้ มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร