ผลการใช้เทคนิค SQ3R เพื่อพัฒนาความสามารถ ด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

Main Article Content

ภัทรลดา วงษ์โยธา
ชุลีพร นาหัวนิล
ศุภวัฒน์ บุญนาดี

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้เทคนิค SQ3R และ 2) ศึกษาเจตคติต่อการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้เทคนิค SQ3R ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนหนองนาคำวิทยาคม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 23 คน โดยใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Selection) แบบแผนการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้เทคนิค SQ3R แบบวัดความสามารถในด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และแบบวัดเจตคติต่อการสอนการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้เทคนิค SQ3R การดำเนินการทดลองใช้ระยะเวลา 10 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง รวมทั้งหมด 10 ชั่วโมง
          ผลการวิจัย
         1. นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจก่อนเรียนเท่ากับ 6.17 คิดเป็นร้อยละ 20.58 และหลังเรียนเท่ากับ 21.22 คิดเป็นร้อยละ 72.72 ซึ่งคะแนนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 เมื่อทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย พบว่าความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
         2. นักเรียนมีเจตคติต่อการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้เทคนิค SQ3R อยู่ในระดับดี

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.

______. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

คัชรินทร์ มหาวงศ์. (2541). การสร้างแบบวัดเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ที่วิเคราะห์โดยวิธีพาเชียลเครดิตโมเดลสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการวัดและประเมินผล. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). การวัดด้านจิตพิสัย. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.

วันเพ็ญ วัฒฐานะ. (2557). การจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการอ่านแบบ SQ3R เพื่อพัฒนาความเข้าใจในการอ่านและศึกษาพฤติกรรมการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยบูรพา.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (PISA). (2562). เมื่อการอ่านกลับมาเป็นการประเมินหลักใน PISA 2018. เรียกใช้เมื่อ 5 สิงหาคม 2563 จาก https://pisathailand.ipst.ac.th/issue-2019-44/

สมุทร เซ็นเชาวนิช. (2549). เทคนิคการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สุมิตรา อังวัฒนกุล. (2540). วิธีสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Biringkanee, A. (2018). The use of SQ3R Technique in improving students’ reading comprehension. ELS-Journal on Interdisciplinary Studies on Humanities, 1(2), 218-225.

Brown, A. L. & Palincsar, A.S. (1982). Inducing strategic learning from text by means of informed, self-control training. Topics in Learning and Learning Disabilities, 2(1), 1-17.

Kusumayanthi, S. & Maulidi, S.M. (2019). The implementation of SQ3R Technique in teaching reading comprehension. The Journal of English Language Teaching, Literature, and Applied Linguistics (JELA), 1(2), 74-80.

Likert, R. (1932). A Technique for the Measurement of Attitudes. Archives of Psychology.

Robinson & Francis Pleasant. (1982). Effective Study (6 ed.). New York: Harper & Row.

Thiede, K. W. et al. (2015). Developing Reading Comprehension through Metacognitive Strategies: A Review of Previous Studies. English Language Teaching, 8(8), 181-186.

Widiawati, T. et al. (2020). Improving the students’reading skill through SQ3R technique in MTS Al-Kheriyah. Journal of Language, Literature, and Linguistics, 1(1), 71-78.