ความรับผิดชอบ ความศรัทธา ความน่าเชื่อถือ การมีส่วนร่วม และความคุ้มค่าที่มีอิทธิพลต่อการจัดการที่ดีในพระพุทธศาสนา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความคิดเห็นของความรับผิดชอบ ความศรัทธา ความน่าเชื่อถือ การมีส่วนร่วม ความคุ้มค่า และการจัดการที่ดีในพระพุทธศาสนา 2) อิทธิพลทางตรง ทางอ้อมของความรับผิดชอบ ความศรัทธา ความน่าเชื่อถือ การมีส่วนร่วม ความคุ้มค่า ที่มีต่อการจัดการที่ดีในพระพุทธศาสนา และ 3) แนวทางในการพัฒนาการจัดการที่ดีของพระพุทธศาสนา การวิจัยนี้ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เชิงปริมาณเก็บข้อมูลจากประชากรที่อาศัยในพื้นที่เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ แขวงสามวาตะวันออก แขวงสามวาตะวันตก แขวงบางชัน แขวงทรายกองดิน และแขวงทรายกองดินใต้ จำนวน 360 คน เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ขนาดของกลุ่มตัวอย่างกำหนดโดยใช้เกณฑ์ 20 เท่าของตัวแปรสังเกตจำนวน 18 ตัวแปร ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นและวิเคราะห์ด้วยแบบจำลองสมการโครงสร้าง เชิงคุณภาพใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ พระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาสวัด จำนวน 8 รูป เจ้าหน้าที่วัด
จำนวน 7 คน ได้แก่ ไวยาวัจกรวัด จำนวน 4 คน และมัคนายก จำนวน 3 คน การเลือกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญแบบเจาะจงตามวัตถุประสงค์ (purposive sampling) โดยตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์กำหนดวิเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ของเนื้อหาด้วยการสังเกตและการสนทนากลุ่ม
ผลการวิจัยพบว่า
- ความคุ้มค่า ความน่าเชื่อถือ การจัดการที่ดีในพระพุทธศาสนา การมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบ อยู่ในระดับมาก ส่วน ความศรัทธา อยู่ในระดับมากที่สุด ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (
=4.48, S.D.=0.44)
- อิทธิพลของความรับผิดชอบส่งผลทางตรงกับความศรัทธามากที่สุด เท่ากับ 0.46 รองลงมาคือ ส่งผลทางตรงกับความน่าเชื่อถือ เท่ากับ 0.33 การมีส่วนร่วม เท่ากับ 0.22 ความคุ้มค่า เท่ากับ 0.19 และการจัดการที่ดีในพระพุทธศาสนา เท่ากับ 0.15 ตามลำดับ และส่งผลทางอ้อมกับการจัดการที่ดีในพระพุทธศาสนา เท่ากับ 0.33 ความคุ้มค่า เท่ากับ 0.24 การมีส่วนร่วม เท่ากับ 0.22 และความน่าเชื่อถือ เท่ากับ 0.09 ตามลำดับ
- รูปแบบความสัมพันธ์ของการพัฒนาการจัดการที่ดีของพระพุทธศาสนา ประกอบด้วย ความศรัทธา ความคุ้มค่า ความน่าเชื่อถือ การจัดการที่ดีในพระพุทธศาสนา การมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบ เป็นแนวทางในการพัฒนาวิธีการบริหารจัดการของวัดอย่างครบวงจร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนในอนาคต
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมการศาสนา. (2564). สัดส่วนผู้นับถือศาสนาพุทธและศาสนาอื่น ๆ. เรียกใช้เมื่อ 15 มกราคม 2565 จาก https://e-ervice.dra.go.th/religion/buddhism?type=10.
กรรณิกา ขาวขุ่น. (2560). ความรับผิดชอบ. เรียกใช้เมื่อ 15 มกราคม 2565 จาก https://saoc.rtaf.mi.th/images/OneDsOne_ARTICLE/02Responsibility.pdf.
กฤษณา พันธุ์มวานิช. (2561). คุณธรรม ความรับผิดชอบ ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม.
กาญจนาณัฐ ประธาตุ. (2560). พุทธศาสนากับสังคมไทย: การยืนหยัดและท้าทายในรอบทศวรรษ (พ.ศ. 2548-2558). วารสารศิลปการจัดการ, 1(2), 103-118.
ณดา จันทร์สม. (2558). การเงินวัด ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์. เรียกใช้เมื่อ 15 มกราคม 2565 จาก https:// forbesthailand.com/commentaries.
ณรงค์ กุลนิเทศ และสุดาวรรณ สมใจ. (2558). ระเบียบวิธีวิจัยชั้นสูง และการออกแบบวิจัย (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: มาสเตอร์พรินท์ สามเสน.
ณัฐวุฒิ เงินท้วม. (2563). มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของเจ้าอาวาสตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 6(2), 72-81.
ทักษิณาร์ ไกรราช และคณะ. (2561). การธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาในสังคมไทยสมัยใหม่ผ่านมิติปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 6(2), 819-830.
ปัณณธร เธียรชัยพฤกษ์ และคณะ. (2564). กลยุทธ์การบริหารกิจการคณะสงฆ์เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของพระพุทธศาสนา. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(5), 378-392.
พระครูธีรธรรมพิมล (ทิม ทองจันดา) และศรุดา สมพอง. (2562). การปฏิรูประบบบริหารภาครัฐในบริบทของสงฆ์ไทย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(10), 6054-6070.
พระครูวิจิตรธรรมาทร (เรียน ติสฺสวํโส) และคณะ. (2562). การสังเคราะห์แนวคิดภพภูมิในพระไตรปิฎกที่ปรากฏในไตรภูมิพระร่วง. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น, 6(4), 427-438.
พระครูอดุลสามัคคยาธร (แสงจันทร์ เจริญคง) และคณะ. (2563). บทบาทของเจ้าอาวาสในการบริหารจัดการวัดในสังคมไทยปัจจุบัน. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(5), 102-116.
พิพัฒน์ นนทนาธรณ์. (2554). แนวปฏิบัติด้านจริยธรรมธุรกิจองค์กรในเขตกรุงเทพมหานคร ใน รวมบทความประชุมวิชาการทางพระพุทธศาสนานานาชาติ ครั้งที่ 8 เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญของสากลโลก (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: เซ็นจูรี่.
ยัง กุนอก. (2559). การศึกษาหลักศรัทธาตามแนวคิดพระพุทธศาสนาเถรวาทของชาวพุทธจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 7(1), 68-76.
สำนักงานเขตคลองสามวา ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม. (2563). ชุมชนในพื้นที่เขตคลองสามวา. เรียกใช้เมื่อ 15 มกราคม 2565 จาก https://webportal. bangkok.go.th/khlongsamwa/ page/sub/188.
อาทิตย์ แสงเฉวก และคณะ. (2562). กระบวนการทุจริตในวงการพระพุทธศาสนา. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(10), 5989-6000.
Gliem, J. & Gliem, R. (2003). Calculating, interpreting, and reporting Cronbach’s alpha reliability coefficient for Likert-type scales. In 2003 Midwest Research to Practice Conference. 82-88.
Gray, B. . (1989). Collaborating: Finding Common Ground for Multiparty Problems. San Francisco: Jossey –Bass.
Huntsman, J. (2018). Credibility. Thailand: HUNTSMAN ICI. .
Portney, L.G. & Watkins, M.P. (2015). Foundation of clinical research: Applications to practice (3rd ed.). Upper Saddle River: Pearson Education, Inc.