สัปเหร่อผู้นำทางจิตวิญญาณระหว่างคนเป็นและคนตาย

Main Article Content

สุทธิพงศ์ เสมสูงเนิน

บทคัดย่อ

มนุษย์ทุกคนอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ หรือกฎธรรมดาของสรรพสิ่งทั้งปวง ไตรลักษณ์ คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนแล้วอยู่ในกฎไตรลักษณ์ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา หรือเป็นที่รู้จักและเข้าใจกันง่าย ๆ ว่าทุกคนล้วนแล้วต้องตายและตายแล้วไปไหนในทางวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์และตอบประเด็นนี้ได้อย่างแท้จริง ทว่ายังมีอีกอาชีพหนึ่งในสังคมไทยที่อยู่เบื้องหลังในการเชื่อมโยงระหว่างคนเป็นและคนตาย บ้างเรียก “นายป่าช้า” บ้างเรียก “ผู้ประกอบพิธีการศพ”หรือปัจจุบันเรารู้จักผู้ทำหน้าที่นี้ว่า “สัปเหร่อ” ผู้มีหน้าที่จัดการซากศพ เพราะมีประวัติศาสตร์มายาวนาน ในด้านศาสนาและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีความเกี่ยวพันกับปลายทางของชีวิตคือ “ความตาย” แม้ปัจจุบันผู้ที่ประกอบอาชีพนี้จะลดลงไปอย่างมาก เนื่องจากความหวาดกลัว ความเชื่อ ผลตอบแทน หรือเทรนด์ใหม่ ฯลฯ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า สัปเหร่อถือเป็นหน้าที่หนึ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ในสังคมไทย เพราะในทุก ๆ วันจะมีคนตายอยู่ตลอด และบุคคลที่จะเข้ามาเชื่อมโยงระหว่างคนเป็นกับคนตาย ก็คือ “สัปเหร่อ” ซึ่งในทุกขั้นตอน กระทำด้วยใจอันบริสุทธิ์ เพื่อคนเป็นและคนตาย และเพื่อการจากไปครั้งสุดท้ายให้ดีที่สุด เพราะทุกคนคงหนีไม่พ้นสัปเหร่อ ตัวสัปเหร่อเองก็ไม่พ้นสัปเหร่อเช่นกันนั้นเอง เพราะตายไปสัปเหร่อต้องเผาหรือฝังผู้ที่อยู่กับเราจนวินาทีสุดท้ายจนเรากลายเป็นเถ้าถ่านก็คือ สัปเหร่อ บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับแนวคิด ความหมาย ประวัติความเป็นมา ที่เกี่ยวข้องกับสัปเหร่อ และความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายของชาวพุทธ รวมถึงการจัดการความตายแบบทางเลือกใหม่

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

ทวีศักดิ์ วรฤทธิ์เรืองอุไร. (2548). สัปเหร่อกับการจัดการศพของชุมชน กรณีศึกษาชุมชนมอญริมแม่น้ำแม่กลอง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

พระมหาพีชายมก์ ปริปุณฺโณ. (27 กันยายน 2567). ผู้นำทางจิตวิญญาณ คืออะไร. (สุทธิพงศ์ เสมสูงเนิน, ผู้สัมภาษณ์)

พระมหาสายัญ สิริปญฺโญฺ. (2553). สัปเหร่อ: ธรรมะบูรณาการบนเชิงตะกอน. เรียกใช้เมื่อ 23 สิงหาคม 2567 จากhttp://oldweb.mcu.ac.th/site/articlecontent_desc.php?article_id=1046&articlegroup_id=222

พระราชบัญญัติควบคุมสุสานและฌาปนสถาน พุทธศักราช 2481. (2481). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 55 หน้า 1037-1045. (20 มีนาคม 2481).

พระราชบัญญัติสุสานและฌาปนสถาน พ.ศ. 2528. (2528). ราชกิจจานุเบกษา (ฉบับพิเศษ). เล่ม 102 ตอนที่ 129. หน้า 365-371. (19 กันยายน 2528).

ภัทรนิษฐ์ สุรรังสรรค์. (2566). รัฐสยดสยอง (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: มติชน.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ยง เสฐียรโกเศศ (พระยาอนุมานราชธน). (2508). ประเพณีเก่าของไทย ประเพณีเนื่องในการตาย (พิมพ์ครั้งที่ 1). พระนคร: ส.การพิมพ์.

ยืนยง มาดี และอดิพงศ์ หันภาพ. (2567). คัมภีร์มหายันต์โบราณ เล่ม 1 (พิมพ์ครั้งที่ 1).นนทบุรี: วี.ที.เอส. บุ๊คเซ็นเตอร์.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2554). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: อักษรเจริญทัศน์.

วรภัทร คัดมาคุย. (2567). ผู้นำทางจิตวิญญาณ ของพรรคการเมือง. เรียกใช้เมื่อ 25 ตุลาคม 2567 จาก https://www.bangkokbiznews.com/blogs/news/news-update/1141473

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์. (2521). บันทึกเรื่องความรู้ต่าง ๆ เล่ม 3 ประทาน พระยาอนุมานราชธน (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.

สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง. (2548). หนังสืออนุสรณ์งานศพ. เรียกใช้เมื่อ 25 ตุลาคม 2567 จาก https://www.lib.ru.ac.th/miscell2/?p=2071

สุทธิพงศ์ เสมสูงเนิน. (15 มิถุนายน 2567). ความหมายของสัปเหร่อ. (ธนา คำวงษา, ผู้สัมภาษณ์).

_______. (24 กันยายน 2567). ผู้นำทางจิตวิญญาณ คืออะไร. (ธนา คำวงษา, ผู้สัมภาษณ์).

สุรเสก เนื่องน้อย. (2564). สัปเหร่อ… อาชีพด่านสุดท้ายโรคระบาดที่ถูกทอดทิ้ง. เรียกใช้เมื่อ 30 ตุลาคม 2567 จาก https://www.facebook.com/photo.php?fbid=387625322785019&id=109688997245321&set=a.111914013689486

สุเมธ พุฒิจีบ. (2566). เปิดใจสัปเหร่อมืออาชีพ รับช่วงต่อพ่อตา 30 ปี จิตอาสาเผาศพ เผยเรื่องลี้ลับหลังความตาย. เรียกใช้เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.matichon.co.th/region/news_4252260

อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2566). ความตายกับเพื่อนคนสุดท้ายที่ชื่อว่า “สัปเหร่อ”. เรียกใช้เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.step.cmu.ac.th/view_content.php?ct_id=TVRJMw==