การประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพที่เป็นอยู่จริงและสภาพที่ควรจะเป็นเกี่ยวกับสมรรถนะครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2, 2) เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 และ3) เพื่อศึกษาแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 เป็นการวิจัยประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 กำหนดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 226 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีการจัดลำดับความต้องการจำเป็น ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพที่เป็นอยู่จริง และสภาพที่ควรจะเป็นในการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 โดยภาพรวมของทั้ง 2 สภาพ อยู่ในระดับมาก 2. ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 โดยภาพรวมมีค่า PNImodified เท่ากับ 0.178 เรียงลำดับจากมากไปน้อยได้ ดังนี้ 1) ด้านทักษะ 2) ด้านความรู้ และ 3) ด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล ตามลำดับ 3. แนวทางการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ได้แก่ 1) ด้านทักษะ ประกอบด้วย 1.1) องค์ประกอบย่อยการวัดผลประเมินผล 1.2) องค์ประกอบย่อยการจัดการเรียนรู้ และ 1.3) องค์ประกอบย่อยการใช้สื่อเทคโนโลยี 2) ด้านความรู้ ประกอบด้วย 2.1) องค์ประกอบย่อยด้านเทคนิควิธีการสอน และ 2.2) องค์ประกอบย่อยด้านผู้เรียน
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ชัชรีย์ บุนนาค. (2562). ปัญหาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยและขอเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์การพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ป 2564 – 2568. http://journalgrad.ssru.ac.th/index.php/miniconference/article/view/1716
ธัญญลักษณ์ เวชกามา. (2562). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูด้านการสอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนประถมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง. วิทยานิพนธ์ระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
ยวียส มาอยู่. (2566). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะครูภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา ในโรงเรียนสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1. การค้นคว้าอิสระสาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วาโร เพ็งสวัสดิ์. (2551). วิธีวิทยาการวิจัย. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 2. (2566). ข้อมูลสารสนเทศ. https://www.nkp2.go.th/o5-2/
สิริกร ชาลีกัน และ พา อักษรเสือ. (2563). กลยุทธ์การพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โรงเรียนประถมศึกษา จังหวัดขอนแก่น. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 5(6), 232-244.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2562). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อมรรัตน์ ทับทิมทอง และสถิรพร เชาวน์ชัย. (2564). ความต้องการจําเป็นและแนวทางการพัฒนาสมรรถนะด้านทักษะของครูภาษาอังกฤษ สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 39 จังหวัดพิษณุโลก. วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 18(3), 129-147.
Bank of Thailand. (2014). Financial Stability Report 2014. https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/en/research-and-publications/reports/financial-stability-report/FSR2014e.pdf. Retrieved 10 January 2024.
Hariharasudan, A. & Kot, S. (2018). A Scoping Review on Digital English and Education 4.0 for Industry 4.0. Social Sciences. 7(11), 227.
Kirkpatrick, R. (2012). English education in Thailand: 2012. Asian EFL Journal. 61: 24-40.
Kirschenbaum, M. (2010). What is digital humanities and what’s it doing in English Departments? ADE Bulletin. no.150: 55-61
Pennycook, A. (2017). The cultural politics of English as an international language: Routledge.
Prapphal, K. (2003). English proficiency of Thai learners and directions of English teaching and learning in Thailand. Journal of Studies in the English Language. 1: 6-12.
Riemer, M. J. (2002). English and communication skill for the global engineer. Global J. of Engng. Educ. 6(1): 91-100.
Smith, L. E. (2015). English as an international language: No room for linguistic chauvinism. Journal of English as a Lingua Franca. 4(1): 165-171.