ทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มอำเภอบ้านดุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อศึกษาทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มอำเภอบ้านดุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุดรธานี เขต 3 และเพื่อเปรียบเทียบทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มอำเภอบ้านดุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุดรธานี เขต 3 จำแนกตามสถานภาพ และประสบการณ์ในการทำงาน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนในอำเภอบ้านดุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3 โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา 70 คน ครูผู้สอน จำนวน 248 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างอย่างง่ายตามขนาดตารางของเครจซี่และมอร์แกน รวมจำนวนทั้งสิ้น 318 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า จำนวน 60 ข้อ มีค่าความเที่ยงตรง (IOC) ระหว่าง 0.67 ถึง 1.00 และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.95 สถิติพื้นฐานที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test
ผลการวิจัยพบว่า การศึกษาเกี่ยวกับทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มอำเภอบ้านดุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุดรธานี เขต 3 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูโดยภาพรวมทุกด้าน พบว่ามีทักษะการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับความคิดเห็นรายทักษะจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ทักษะด้านคตินิยม ทักษะด้านเทคนิค ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการใช้ทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มอำเภอบ้านดุง ทั้ง 3 ทักษะโดยภาพรวมพบว่า แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายทักษะพบว่า ผู้บริหารและครูมีความคิดเห็นแตกต่างกันทุกด้านเช่นกัน และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูที่มีเพศต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการใช้ทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมพบว่า ไม่แตกต่างกัน ส่วนการเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างผู้บริหารและครูที่มีวุฒิทางการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการใช้ทักษะการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมพบว่า แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายทักษะพบว่า ผู้บริหารและครูที่มีวุฒิทางการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นแตกต่างกันทุกด้านเช่นกัน