การศึกษาผลการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยก้าวให้ไกล ไปให้ถึง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบซิปปาโมเดล
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาผลการเรียนรู้หน่วย ก้าวให้ไกล ไปให้ถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบซิปปาโมเดล ในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะทางภาษา ทักษะกระบวนการกลุ่มและความมีวินัย 2) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้หน่วย ก้าวให้ไกล ไปให้ถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบซิปปาโมเดล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนชุมชนบ้านหนองสะโนโนนจันทร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 5 จำนวน 25 คนได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินทักษะทางภาษา แบบประเมินทักษะทำงานกลุ่มและแบบประเมินความมีวินัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test for Dependent Samples
ผลการวิจัยพบว่า
- ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กรณีก่อนเรียนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับต่ำ และหลังเรียนอยู่ในระดับสูง
- ผลการเรียนรู้ทักษะทางภาษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังได้รับการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบซิปปาโมเดล โดยภาพรวมและทุกรายทักษะอยู่ในระดับปานกลาง ลำดับแรก ทักษะการอ่าน รองลงมา ทักษะการฟัง ทักษะการเขียน และทักษะการพูดตามลำดับ
- ผลการเรียนรู้ทักษะการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังได้รับการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบซิปปาโมเดล โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง
- ผลการเรียนรู้ความมีวินัยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังได้รับการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบซิปปาโมเดล โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการเรียนการสอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบซิปปาโมเดล หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05