การจัดการเรียนรู้ เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยวิธีการเรียนรู้แบบบทบาทสมมติ
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้; , บทบาทสมมติ; , หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดการเรียนรู้ เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธโดยวิธีการเรียนรู้แบบบทบาทสมมติ เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธโดยวิธีการเรียนรู้แบบบทบาทสมมติ เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยวิธีการเรียนรู้แบบบทบาทสมมติ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านกูน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 34 คน โดยเลือกแบบเจาะจง ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน โดยศึกษาจากเอกสาร หนังสือ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์เนื้อหาเชิงสถิติ ผลการวิจัยพบว่า 1) การเรียนรู้แบบบทบาททำให้ผู้เรียนได้แสดงออกตามความเหมาะสมในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม และสนุกกับการเรียนมากขึ้น ซึ่งบทบาทสมมติก็เป็นการจัดกิจกรรมรูปแบบหนึ่งที่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดทักษะทั้งความกล้าแสดงออก การเป็นผู้นำ ผู้ตาม การสังเกต ฝึกความคิด และจินตนาการได้ ทั้งยังช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาวิชาที่เรียนได้ง่ายขึ้นและสามารถนำไปปฏิบัติได้ถูกต้องในชีวิตประจำวัน 2) นักเรียนมีคะแนนการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยก่อนเรียน 10.38 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51.91 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 16.32 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.62 ซึ่งมีคะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักเรียนที่เรียนโดยวิธีการเรียนรู้แบบบทบาทสมมติ เรื่อง หน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ มีความพึงพอใจในระดับมาก
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กานต์ญาณิศา สุนทร, สุรกานต์ จังหาร และประสพสุข ฤทธิเดช. (2564, กันยายน-ธันวาคม). “การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้กิจกรรมบทบาทสมมติของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี 2.” วารสารมหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 15(3): 131.
จิรัสย์ แสนคําภา และอรัญ ซุยกระเดื่อง. (2565, ตุลาคม-ธันวาคม). “การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบบทบาทสมมติเรื่องมารยาทชาวพุทธนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3.” วารสารสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 6(4): 218.
ชนิสรา อังคตรีรัตน์ และจิตณรงค์ เอี่ยมสำอางค์. (2563, กรกฎาคม 9). “การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษด้วยชุดฝึกบูรณาการแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่นกาญจนบุรี ร่วมกับการสอนแบบบทบาทสมมติสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.” วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 18(1) : 193.
ณิชา โสภณ, ปริญญา ทองสอน และปานเพชร ร่มไทร. (2566, พฤษภาคม-สิงหาคม). “ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้การแสดงบทบาทสมมติ ร่วมกับการเรียนแบบร่วมมือเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อนที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการสื่อสารและเจตคติต่อการเรียนภาษาญี่ปุ่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.” วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 10(2): 156.
ทิศนา แขมมณี. (2552). ศาสตร์การสอน. (พิมพ์ครั้งที่ 5) กรุงเทพฯ: ด่านสุทธากรพิมพ์จำกัด.
__________ .(2564). ศาสตร์การสอน. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุญเลิศ สุขจิตร. (2565, สิงหาคม 15). สัมภาษณ์.
พระมหาอานนท์ อานนฺโท และคนอื่น ๆ. (2562, กันยายน-ธันวาคม). “ผลสัมฤทธิ์การจัดกิจกรรมการเรียนรู้มารยาทไทย: บทบาทสมมติ.” วารสารศิลปศาสตร์ราชมงคลสุวรรณภูมิ, ฉ. 3: 247.
สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ. (2551). 19 วิธีจัดการเรียนรู้: เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะ. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12. กรุงเทพฯ: สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสซิ่ง.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2561). รายงานการศึกษาไทย พ.ศ.2561 (Education inThailand 2018). กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารมหาจุฬาคชสาร

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.