การพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่องตัวเรา โดยใช้การจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับเกมการศึกษาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5E, เกมการศึกษา, การพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ตัวเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับเกมการศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องตัวเรา ก่อนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับเกมการศึกษาและ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านหนองสนมพะลาน จำนวน 18 คน โดยใช้การสุ่มแบบกลุ่มจากประชากร ที่เป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาทุ่งศรีอุดม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 5 จำนวน 2 โรงเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 ได้แก่โรงเรียนบ้านหนองสนมพะลาน จำนวน 18 คนและโรงเรียนบ้านโนนใหญ่ จำนวน 14 คน รวมจำนวน 32 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ E1/E2 และการทดสอบค่าทีแบบ Dependent Samples
ผลการวิจัย พบว่า 1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้การพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับเกมการศึกษา เรื่อง ตัวเรา มีประสิทธิภาพเท่ากับ 89.78/82.78 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ตัวเรา หลังการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับเกมการศึกษา สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Downloads
เอกสารอ้างอิง
ทิศนา แขมมณี. (2560). รูปแบบการเรียนการสอน:ทางเลือกที่หลากหลาย.(พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นงพงา สุวพิศ. (2561). ผลการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 5 ขั้น โดยใช้เกมประกอบเรื่อง สมบัติสารที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 โรงเรียนขยายโอกาสขนาดกลาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร. สืบค้นเมื่อ 25 กันยายน 2566, จาก https://www.stou.ac.th/thai/grad_stdy/Masters/%E0%B8%9D%E0%B8%AA%E0%B8%AA/research/9th/FullPaper/SS/Oral/O-.pdf
วรรณภา พุทธสอน (2558). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับการใช้เกมเรื่อง แม่เหล็กและไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566, จาก http://www.edu.nu.ac.th/th/news/docs/download/2018_05_13_11_53_05.pdf
แพรวนภา โสภา, อนันต์ปานศุภวัชร และถาดทอง ปานศุภวัชร. (2561). การพัฒนาการคิดวิเคราะห์ โดย ใช้การสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น และเกมเรื่อง ระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารวิชาการหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 10 (28), 118-121 สืบค้นจาก https://gsmis.snru.ac.th/e-thesis/thesis_detail?r=56421238106
Akar E. (2005). Effectiveness of 5E learning cycle model on students’understanding of acid-based concepts.[M.D. School of natural and applied science, Middie east technical university.].
Gridaphat S. (2018). Software engineering prospective on digital game-based learinig for thailand education 4.0. The Journai of King Mongkut’ University of Techology North Bangkok, 28 (2): 447-488.