สมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน

Main Article Content

สานิตา แดนโพธิ์
สงวน อินทร์รักษ์

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  และ 2) ศึกษาผลการยืนยันองค์ประกอบสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา มีแผนการวิจัยแบบกลุ่มเดียว ศึกษาสภาวการณ์โดยไม่มีการทดลอง กลุ่มตัวอย่าง คือ โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 100 โรงเรียน ผู้วิจัยกำหนดผู้ให้ข้อมูล โรงเรียนละ 3 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา หรือ รักษาการในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และครู รวมผู้ให้ข้อมูลทั้งสิ้น 300 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง แบบสอบถามความคิดเห็น และแบบสอบถามเพื่อยืนยันองค์ประกอบ เกี่ยวกับองค์ประกอบสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ มัชฌิมเลขคณิต  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ ผลการวิจัยพบว่า 1. องค์ประกอบสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มี 5 องค์ประกอบ  จำนวน 116 ตัวแปร 1) การวางแผนสู่การปฏิบัติ มีองค์ประกอบย่อย 4 องค์ประกอบ  ได้แก่ 1.1) คุณธรรม จริยธรรมของผู้นำ  1.2) การทำงานเป็นทีม 1.3) การมุ่งผลสัมฤทธิ์ และ 1.4) การพัฒนาศักยภาพของบุคลากร 2) การพัฒนาตนเอง มีองค์ประกอบย่อย 4 องค์ประกอบ  ได้แก่ 2.1) การมีวิสัยทัศน์ที่ดี 2.2) การมุ่งมั่นในการปฏิบัติงาน  2.3) การติดต่อสื่อสาร และ 2.4) การกำกับ ติดตามและประเมินผล  3) การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ  4) การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ และ 5) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 2. ผลการยืนยันองค์ประกอบสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้เชี่ยวชาญเห็นสอดคล้องกันว่า องค์ประกอบสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความถูกต้อง เหมาะสม เป็นไปได้ และเป็นประโยชน์

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2554). เอกสารการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานกรอบและแนวทางการประกันคุณภาพภายใน. กรุงเทพมหานคร: คุรุสภาลาดพร้าว.

เทื้อน ทองแก้ว. (2555). ภาวะผู้นำสมรรถนะหลักของผู้บริหารยุคปฏิรูป,” วารสารวิชาการ 5(9),1-15.

นฤมล พันลุตัน. (2562). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน. วารสารสังคมศาสตร์วิชาการ, 12(3), หน้า 333-342.

ประวิทย์ วงค์จันทร์. (2566). การศึกษาองค์ประกอบสมรรถนะของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา. วารสาร มจร หริภุญชัยปริทรรศน์, 7(4), หน้า221-234.

มานะ ครุธาโรจน์.(2563).“กลยุทธ์การพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ยุคการศึกษา 4.0. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 5(9), 221-224.

ไพฑูรย์ สินรารัตน์. (2560). ความเป็นผู้นำทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: วิทยาลัยครุศาสตร์มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

รุ่งอรุณ รังรองรัตน์. (2562).ปัจจัยแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาการศึกษาขั้นพื้นฐานกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, 7(2), หน้า 27-40.

สำนักสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2565). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่สิบสาม พ.ศ.2566-2570. กรุงเทพมหานคร.

อริสา นามวงศ์พรหม. (2562). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตภาคเหนือตอนบน. วารสารสังคมศาสตร์วิชาการ, 12(1), หน้า 129-137.

อภิเชษฐ์ วันทา. (2566). สมรรถนะประจำสายงานของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 11(1), หน้า 106-116.

John W. Best. (1981). Reaserch in education, 4th ed. Englewood Cliffs, N. J.: Prentice-Hall, Inc.

Lee J. Cronbach. (1984). Essentials of Psychological Test. 4th ed. New York: Harper and Row.

McClelland. (1973). Testing for Competence Rather than for Intelligence. Harvard: Harvard University.

Spencer L. M. and Spencer S. M. (1993) Competence at Work: Model for Superior Performance. New York: Wiley & Sons.