ประสิทธิผลการจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์

Main Article Content

พระสุทัศน์ ฐิตโสภโณ (ตะกรุดเงิน)

บทคัดย่อ

การวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาระดับความคิดเห็นต่อประสิทธิผลการจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลต่อประสิทธิผลการจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ และ 3) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับประสิทธิผลการจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์  การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยการวิจัยเชิงปริมาณ สำรวจกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 383 คน จากสมาชิกทั้งหมด 8,928 คน สุ่มกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มโควตา คำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.845 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติพรรณนาที่ใช้ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที (t-test) และการทดสอบค่าเอฟ (F-test) ด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) เมื่อพบความแตกต่างจึงทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) จำนวน 9 รูป/คน โดยใช้แบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง (Structured Interview Form) และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา


ผลการวิจัยพบว่า


  1. ระดับความคิดเห็นของสมาชิกที่มีต่อประสิทธิผลการจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ในภาพรวม พบว่าอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{x}= 3.59 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิผลการจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ทุกด้านอยู่ในระดับมากโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านประสิทธิผลด้านกระบวนการภายใน (gif.latex?\bar{x}= 3.65) ด้านประสิทธิผลด้านการเรียนรู้และการพัฒนา (gif.latex?\bar{x}= 3.59) ด้านประสิทธิผลด้านการเงิน (gif.latex?\bar{x} = 3.58) ด้านประสิทธิผลด้านผู้รับบริการ (gif.latex?\bar{x}= 3.54)  ตามลำดับ

  2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของสมาชิกที่มีต่อประสิทธิผลการจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า สมาชิกที่มี เพศ ระดับการศึกษา อายุ สถานภาพ อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน และวัตถุประสงค์ในการขอกู้ยืม ต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อประสิทธิผลการจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย

  3. ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะจากการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่า ปัญหาอุปสรรค ได้แก่ 1) บริบทพื้นที่ท้องถิ่นนั้น ๆ มีประเพณีวัฒนธรรมมีแนวคิดต่างกัน 2) สมาชิกและคณะกรรมการไม่ทำตามกฎระเบียนข้อบังคับของกองทุนหมู่บ้าน ชอบทำตามใจตนเอง  3) เมื่อถึงกำหนดส่งคืนชำระเงินคืนให้กับกองทุน สมาชิกไม่นำเงินมาคืนตามที่แจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า 15 วัน และ 4) คณะกรรมการไม่มีการปรึกษาหาหรือกับสมาชิก เพื่อให้รับทราบปัญหาต่าง ๆ  

ข้อเสนอแนะ ได้แก่ 1. ให้มีการศึกษามีความรู้ในบริบทพื้นที่ท้องถิ่นนั้น ๆ ว่าเขามีประเพณีวัฒนธรรมมีแนวคิดแบบไหนอย่างไรให้นำมาศึกษาเรียนรู้แล้วนำมาพัฒนา ต่อไปเพื่อความสำเร็จ 2. สมาชิกและคณะกรรมการจะต้องทำตามกฎระเบียนข้อบังคับของกองทุน ไม่ใช้ทำตามใจตนเอง จะต้องเป็นคนมีพรหมวิหารธรรมคุณธรรมจริยธรรม 3. เมื่อถึงกำหนดส่งคืนชำระเงินคืนให้กับกองทุนสมาชิกก็จะนำเงินมาคืนตามที่แจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า  และ 4. สมาชิกและคณะกรรมการเข้ามาปรึกษาหาหรือกัน เพื่อให้รับทราบปัญหาต่าง ๆ เพื่อจะหาทางแก้ไขแสดงความคิดเห็น เพื่อที่จะให้กองทุนดำเนินงานต่อไปได้

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

1. ศิริขวัญ วิเชียรเพลิศ. (2558). รายงานการศึกษากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ. กรุงเทพมหานคร: สำนักงบประมาณของรัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.

2. แบบรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของของประชาชนระดับหมู่บ้านอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ข้อมูลเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2558.

3. ฐานข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่น จังหวัดนครสวรรค์. “การปกครองส่วนภูมิภาค อำเภอท่าตะโก”. 8 พฤศจิกายน 2558.

4. ประมวลแนวทางการดำเนินงานกองทุนชุมชนเรื่องกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สำนักงานพัฒนาทุนและองค์กรการเงินชุมชน, 2554.

5. พระมหาเนรมิต จิตฺตญาโณ (ปั้นส่ง). (2557). “ประสิทธิผลการบริหารงานของเทศบาลเมืองอรัญญิก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

6. ฐิติพร สะสม. (2553). “ศึกษาระบบการบริหารและการจัดการวัดในพระพุทธศาสนา กรณีศึกษา : วัดพระธาตุแช่แห้ง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

7. พระครูวิสุทธานันทคุณ (ครุฑธา). (2554). “การบริหารจัดการวัดเขาช่องพราน จังหวัดราชบุรี”, วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

8. พัชรี ศรสุรินทร์. (2556). “การบริหารจัดการภูมิปัญญาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล ในอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

9. พัชรินทร์ แจ้งอิ่ม. (2556). “การพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานของข้าราชการครูตามหลักภาวนา 4 ในเขตอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.