รูปแบบการสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Main Article Content

จรูญศักดิ์ สุนทรเดชา

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาสภาพสุขภาวะในองค์กรของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาวะในองค์กรกับประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 3. สร้างรูปแบบการเสริมสร้างสุขภาวะองค์กรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธีประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพการวิจัยเชิงปริมาณใช้การศึกษาวิจัยเชิงสำรวจและใช้แบบสอบถามในการเก็บรบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ใช้สูตรของ Taro Yamane ได้ขนาดตัวอย่างจำนวน 216 รูปหรือคน ซึ่งเป็นตัวแทนบุคลากรในสังกัดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือระดับวิทยาเขต 5 แห่ง จำนวน 467 รูปหรือคน การวิเคราะห์โดยใช้สถิติพรรณนาในการคำนวณค่าเฉลี่ยความคิดเห็น () และการกระจายความเห็นด้วยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D)  หาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและสภาพทั่วไปของสุขภาวะในองค์กร โดยใช้เทคนิคไคสแคว์ และหาสหสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและสุขภาวะองค์กร 5 ด้าน ด้วยค่าสัมประสิทธิสัมพันธ์ของเพียร์สัน จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้ไปออกแบบสัมภาษณ์  แล้วจึงสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 7 รูป นำข้อมูลมาสังเคราะห์เพื่อหาข้อสรุปรูปแบบการสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กรที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากร


ผลการวิจัยพบว่า


  1. ระดับความคิดเห็นที่มีต่อสภาพสุขภาวะในองค์กรของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{X}= 3.78) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ทุกด้าน อยู่ในระดับมาก ขณะที่ระดับความคิดเห็นที่มีต่อประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภาพรวมพบว่าอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{X}= 3.91) และเมื่อจำแนกเป็นรายด้านก็ยังพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน

  2. ความสัมพันธ์ระหว่างสุขภาวะในองค์กรกับประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า สุขภาวะในองค์กรในละแต่ด้าน โดยภาพรวม มีความสัมพันธ์หรือส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับสูงมาก (R = 0.860**)

  3. รูปแบบการเสริมสร้างสุขภาวะองค์กรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพใน พบว่า 1) ด้านวินัยในการทำงานองค์กรจะต้องสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงานบนพื้นฐานของกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน 2) ในด้านความรับผิดชอบจะต้องปลูกจิตสำนึกให้เกิดความรักในหน้าที่การงานและทำงานที่ตนเองชอบหรือถนัด 3) ด้านมนุษย์สัมพันธ์จะต้องปลูกจิตสำนึกให้เกิดความรักความปรารถนาดีต่อกัน การมีส่วนร่วม และการทำงานเป็นทีม และ 4) ด้านความคิดสร้างสรรค์จะต้องปลูกจิตสำนึกประชาธิปไตยในองค์กรเคารพสิทธิเสรีภาพและรับฟังกันมากขึ้นจึงจะทำให้ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้น

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

1. จารุนันท์ ฟูวงศ์. (2543). การดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพในสถานที่ทำงานภาคเอกชน : กรณีศึกษาบริษัทวาโก้ลำพูน จำกัด. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

2. สำนักวิจัยสถาบันราชภัฏสวนดุสิต. (2546). การศึกษาประสิทธิภาพของบัณฑิตสถาบันราชภัฏสวนดุสิต. (รายงานการวิจัย). กรุงเทพมหานคร: เนติกุลการพิมพ์.

3. สุรพงษ์ ภิยโยภาพ. (2546). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงาน. (ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

4. เอมิเร เลิฟวีย์. (กรกฎาคม 4, 2548). การเสริมสร้างสุขภาพองค์กรที่ดี. ประชาชาติธุรกิจ.

5. Gray, R. (2007). A Climate of Success. Oxford: Elsevier.

6. Martin. Angela J.; Jones. Elizabeth S. and Callan, Victor J. (2005). The Role of Psychological Climate in Facilitating Employee Adjustment During Organizational Change. European Journal of Work and Organizational Psychology, 14(3).