การพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงภูมิศาสตร์การท่องเที่ยวในพื้นที่มรดกโลกห้วยขาแข้ง

Main Article Content

ประคอง มาโต

บทคัดย่อ

 


บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาบริบท และสภาพปัญหา ส่งเสริมการพัฒนา และนำเสนอแนวทางการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงภูมิศาสตร์ในพื้นมรดกโลกห้วยขาแข้ง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยกระบวนการมีส่วนร่วม เป็นรูปแบบวิจัยเชิงเอกสาร และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม โดยทำการเลือกชุมชนแนวเขตป่ากันชน จำนวน 8 ชุมชน จากลักษณะความโดดเด่นของเขตพื้นที่ ที่มีอาณาบริเวณติดกับพื้นที่มรดกโลกห้วยขาแข้ง 0 กิโลเมตร ประชากรกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 24 คน และการสนทนากลุ่มเฉพาะจำนวน 4 กลุ่ม 32 รูป/คน


ผลการวิจัยพบว่า ชุมชนบริเวณโดยรอบเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นชุมชนที่มีลักษณะเป็นชุมชนผสมผสาน มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ชาวบ้านมีประวัติการมีส่วนร่วมในการจัดการป่าในระดับหนึ่งผ่านมิติของวัฒนธรรม ประเพณีพิธีกรรม และความเชื่อต่าง ๆ  ก่อให้เกิดกิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง โดยมีการร่วมมือกันโดยการสร้างเครือข่าย ในการทำงานร่วมกันของ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน และประชาชนในพื้นที่ โดยหน่วยงานรัฐทำหน้าที่เป็นหลักในการ จัดโครงการให้ความรู้กับประชาชน เพื่อพูดคุย และวางกติกาข้อตกลงร่วมกัน ในการใช้ทรัพยากรจากป่า เพื่อลดความขัดแย้ง และปัญหาต่าง ๆ  ที่เกิดขึ้น การพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงภูมิศาสตร์การท่องเที่ยวในมรดกโลกห้วยขาแข้ง มีความสอดคล้องกับแนวคิดความสำคัญของภูมิศาสตร์ ทำให้ชาวบ้านมีทัศนคติที่ดีต่อการอนุรักษ์ และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างเหมาะสม และเห็นความสำคัญของการรักษาสภาพแวดล้อม เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง จนเกิดเป็นความตระหนักในความสำคัญต่อสิ่งนั้นหรือเรื่องนั้นโดยเฉพาะขึ้น นำไปสู่แนวทาง ดังนี้ 1. การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดจิตสำนึกต่อการรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน 2. การท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นการท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยว และเป็นการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร 3. การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมเป็นการท่องเที่ยวเพื่อการชมหรือสัมผัส ศิลปวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ รวมทั้งงานเทศกาล ประเพณี 4. การท่องเที่ยวเชิงชาติพันธ์ และวัฒนธรรมพื้นถิ่น เป็นการท่องเที่ยวเพื่อแสวงหา การสัมผัสโดยตรงกับคนที่มีเชื้อชาติ และภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่างไป ไม่ใช่การสัมผัสผ่านสิ่งประดิษฐ์ทางวัฒนธรรม และ 5. การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นการท่องเที่ยวเพื่อบำบัดโรค บำรุงสุขภาพกาย หรือสุขภาพจิต ดึงดูดใจทางการท่องเที่ยวที่ธรรมชาติให้มา ชมความงามตามธรรมชาติ ที่ประชาชนในชุมชนได้เข้าไปดำเนินกิจกรรมในชุมชน กำหนดปัญหา และความต้องการ เพื่อร่วมปฏิบัติกิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหา ร่วมติดตามประเมินผลกิจกรรม และร่วมรับผลกระทบที่เกิดจากกิจกรรมนั้น

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
มาโต ป. (2019). การพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงภูมิศาสตร์การท่องเที่ยวในพื้นที่มรดกโลกห้วยขาแข้ง. วารสารวิจยวิชาการ, 2(2), 89–106. สืบค้น จาก https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jra/article/view/181971
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

1. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน). (2556). คู่มือแนะนำเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่ามรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง. กรุงเทพฯ: บริษัท ทวีวัฒน์การพิมพ์ จำกัด.

2. วีระยา โอชะกุล. (2560, 22 พฤษภาคม). บริบทและสภาพปัญหาแหล่งเรียนรู้เชิงภูมิศาสตร์ในพื้นที่มรดกโลกห้วยขาแข้ง. (นายประคอง มาโต, ผู้สัมภาษณ์).

3. สมบัติ ชูมา. (2560, 22 พฤษภาคม). บริบทและสภาพปัญหาแหล่งเรียนรู้เชิงภูมิศาสตร์ในพื้นที่มรดกโลกห้วยขาแข้ง. (นายประคอง มาโต, ผู้สัมภาษณ์).

4. อรนุช ศิลป์ มณีพันธ์. (2547). ลักษณะชายฝั่งทะเลที่พึงประสงค์ของนักท่องเทียวบริเวณชายฝั่ง ทะเลประเทศไทย. (วิทยานิพนธ์ ศศ.ม. สาขาวิชาภูมิศาสตร์). บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

5. Burke, A. (1999). Communications & Development: a practical guide. London: Social Development Division Department for International Development.