การประยุกต์หลักราชวสดีธรรมสำหรับงานราชการ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาราชวสดีธรรมในวิธุรชาดก 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างราชวสดีธรรมกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และ 3) ประยุกต์หลักราชวสดีธรรมสำหรับงานข้าราชการ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาข้อมูลจากพระไตรปิฎก อรรถกถา งานวิจัยและเอกสารต่าง ๆ วิเคราะห์ บรรยายโดยการพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า 1) ราชวสดีธรรม เป็นหลักปฏิบัติราชการ 49 ประการ หากผู้ปฏิบัติราชการไม่ปฏิบัติตามจะถือว่าเป็นผู้ที่บกพร่องในหน้าที่ของตน การมีจรรยาบรรณต่อตนเอง การมีจรรยาบรรณต่อหน่วยงาน การมีจรรยาบรรณต่อผู้บังคับบัญชา และการมีจรรยาบรรณต่อผู้อื่นและสังคม เป็นหลักที่ผู้ปฏิบัติราชการพึงปฏิบัติงานด้วยความขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด ถูกระเบียบ อดทน สุภาพอ่อนน้อม และรักในหน้าที่การงานของตน 2) หลักราชวสดีธรรมมีความสัมพันธ์กับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา คือ อิทธิบาท 4 จักรวรรดิธรรม พรหมวิหาร อคติ สัปปุริสธรรม ราชสังคหธรรม อปริหานิยธรรม โดยมีความสำคัญต่อผู้ปฏิบัติงานราชการ เพื่อให้มีความสงบสุขสำหรับปัจเจกชนและสังคมโดยส่วนรวม และ 3) การประยุกต์หลักราชวสดีธรรมสำหรับงานข้าราชการ ใช้ในการควบคุมตนเอง ในการปฏิบัติต่อผู้อื่น และการทำงาน ใช้ในการยับยั้งอารมณ์ พฤติกรรม และความปรารถนาตามธรรมชาติของบุคคล ในการตอบสนองต่อเป้าหมายระยะสั้นที่มีความดึงดูดใจ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในระยะยาว และเป็นการกระทำตามกฎหรือบรรทัดฐานของสังคม เพื่อการปฏิบัติต่อผู้อื่น โดยการมีความเอื้อเฟื้อแต่ไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้งยังต้องเปิดใจรับฟังผู้อื่นด้วยความอยากเข้าใจผู้อื่นจริง ๆ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ยั่งยืน การพูดความจริงทำให้ผู้อื่นมีพื้นที่ในการพูดความจริงและการกระทำจากความจริงใจ และประยุกต์ใช้ในการทำงานโดยในการทำงานต้องมีความรอบคอบ รวดเร็ว ขยันหมั่นเพียร นอกจากนั้น จะต้องศึกษาและพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของทางราชการและประชาชนเป็นสำคัญ
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจยวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจยวิชาการก่อนเท่านั้น
References
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
วิชาญ สัดซำ. (2559). การบริหารแบบระบบราชการกับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของข้าราชการและพนักงาน อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด. (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเกริก.
สายวรุณ น้อยนิมิต. (2552). อรรถกถาชาดก: การศึกษาในฐานะวรรณคดีคำสอนของไทย และความสัมพันธ์กับวรรณคดีคำสอนเรื่องอื่น. (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต). คณะอักษรศาสตร์ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระวันเพ็ญ กนโก. (2556). วิเคราะห์หลักสัจจะที่ปรากฏในวิธุรบัณฑิตชาดก. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระมหาวัลลภ บุญล้อม. (2548). การศึกษาเปรียบเทียบ วรรณกรรมชาดกเรื่องวิธุรบัณฑิตฉบับพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ กับฉบับภาคเหนือและภาคอีสาน. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร. (2530). อ้างถึงใน สายวรุณ น้อยนิมิต อรรถกถาชาดก : การศึกษาในฐานะวรรณคดีคำสอนของไทย และความสัมพันธ์กับวรรณคดีคำสอนเรื่องอื่น. (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต). คณะอักษรศาสตร์ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พัฒน์ เพ็งผลา. (2528). ประวัติวรรณคดีบาลี. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.