แนวทางพัฒนาแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานยุคโลกพลิกผัน (VUCA WORLD) ของผู้บริหารสถานศึกษาชายแดนไทย-พม่า อำเภอพบพระ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษา 2) เปรียบเทียบ และ 3) หาแนวทางพัฒนาแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานยุคโลกพลิกผัน (VUCA WORLD) ของผู้บริหารสถานศึกษาชายแดนไทย-พม่า อำเภอพบพระ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครู จำนวน 248 คน โดยการเปิดตารางกำหนดกลุ่มตัวอย่างของเคร็จซี่และมอร์แกน และการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน ผู้ให้ข้อมูล จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ หาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความถี่ ร้อยละ จัดลำดับ และการหาค่าความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัย พบว่า 1) แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านความรับผิดชอบต่อตนเอง 2) ผลการเปรียบเทียบแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ จำแนกตามขนาดของสถานศึกษา โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน และ 3) แนวทางพัฒนาแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานยุคโลกพลิกผัน (VUCA WORLD) ของผู้บริหารสถานศึกษาชายแดนไทย-พม่า พบว่า ด้านความทะเยอทะยาน ผู้บริหารควรสร้างแรงบันดาลใจในการปฏิบัติงานให้กับตนเองอยู่เสมอ ด้านความกระตือรือร้น ผู้บริหารและครูควรมีการทบทวนการดำเนินงานและทบทวนตนเองอยู่เสมอ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนางานให้ดียิ่งขึ้น ด้านความกล้าเสี่ยง ผู้บริหารสถานศึกษาควรมีความกล้าเสี่ยงในการสร้างความเปลี่ยนแปลง การสร้างนวัตกรรมทางการศึกษา เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของสถานศึกษาให้ดียิ่งขึ้น ด้านความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้บริหารควรมีการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากปัจจัยภายในหรือปัจจัยภายนอก แล้วหาวิธีการหรือแนวทางแก้ไขปัญหา ด้านการรู้จักวางแผน สถานศึกษาควรมีการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา การวางแผนยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาสถานศึกษา และมีการทบทวนในทุก ๆ ปี ด้านความมีเอกลักษณ์ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหาร และครูควรมีการสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่า ตระหนักถึงการพัฒนาเชิงระบบ เพื่อสร้างความมีเอกลักษณ์ให้เกิดกับสถานศึกษา
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจยวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจยวิชาการก่อนเท่านั้น
References
กมลวรรณ จันทร. (2564). การบริหารสถานศึกษายุคโลกพลิกผัน ฉลาดรู้เท่าทันดิจิทัล. ใน การประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 14 "Global Goals, Local Actions: Looking Back and Moving Forward 2021" (น.1002-1010). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
กิรติภาพัชร์ กษิดิศ และนริสานันท์ เดชสุระ. (2561). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของผู้บริหารสถานศึกษากับองค์ประกอบของบรรยากาศองค์การในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2. วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่า, 5(3), 15-22.
เจริญ ภูวิจิตร. (2565). แนวทางการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาในยุค Next Normal. เข้าถึงได้จาก https://www.nidtep.go.th/2017/publish/doc/20220308-4.pdf.
ณัฏริกา บูรณกูล. (2552). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์และค่านิยมในการทำงานกับพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การ ของครูโรงเรียนเอกชนในอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่. (การค้นคว้าอิสระวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ดรรชนี จิตคำรพ. (2561). แรงจูงใจใฝสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 16. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). คณะศึกษาศาสตรและศิลปะศาสตร์ : มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
พระมหาพิเศษ สุขสมาน และคณะ. (2566). การบริหารจัดการทางการศึกษาในยุค VUCA WORLD. วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, 3(5), 137-155.
พีระกรณ์ ทะชิตะสิงห์ และคณะ. (2566). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของผู้บริหารสถานศึกษา กับบรรยากาศองค์การของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 17(1), 201-216.
ภารดี อนันต์นาวี. (2553). หลักการแนวคิด ทฤษฎีทางการบริหารการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 3). ชลบุรี : มนตรี.
ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์. (2566). “แม่สอด” เมืองชายแดนที่เกือบรุ่ง หากไม่เกิดรัฐประหารพม่า. เข้าถึงได้จาก https://plus.thairath.co.th/topic/politics&society/103614.
มัทนา วังถนอมศักดิ์ และคณะ. (2564). ผู้บริหารสถานศึกษากับการบริหารความเปลี่ยนแปลง. วารสารวิชาการ วิทยาลัยแสงธรรม, 13(2), 5-25.
สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน. (2556). สรุปข้อมูลความรู้การประชุมอภิวัฒน์การเรียนรู้สู่จุดเปลี่ยนประเทศไทย. กรุงเทพฯ : สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน.
อธิวัฒน์ หมั่นกิจ และตรัยภูมินทร์ ตรีตรีศวร. (2566). แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงานของครูในโรงเรียนอำเภอศรีสาคร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 1. วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น, 9(8), 843-855.
Aslan, A. E. & Kirikkanat, B. (2013). Achievement and Motivation: A Different Perspective on Familiar Concepts. Social and Behavioral Sciences, 106(3), 308–316.
Krejcie R.V. & D.W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.