การพัฒนารูปแบบภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์สู่องค์กรคุณภาพวิถีใหม่ ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพความเป็นจริงและสภาพที่คาดหวัง 2) พัฒนารูปแบบภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์สู่องค์กรคุณภาพวิถีใหม่ของผู้บริหารสถานศึกษา และ 3) วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันของรูปแบบภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์สู่องค์กรคุณภาพวิถีใหม่ของผู้บริหารสถานศึกษา มี 3 ขั้นตอน ขั้นที่ 1 ศึกษาสภาพความเป็นจริง สภาพที่คาดหวัง โดยใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน 316 คน ขั้นตอนที่ 2 กำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา 6 คน และอาจารย์ในมหาวิทยาลัย 1 คน เพื่อสัมภาษณ์เชิงลึก และขั้นตอนที่ 3 กำหนดกลุ่มตัวอย่าง ได้ทั้งสิ้น 320 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามจำนวน 65 ข้อ และแบบสัมภาษณ์เชิงลึกจำนวน 9 ข้อ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติทดสอบที การวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับสภาพความเป็นจริงอยู่ในระดับมาก และสภาพที่คาดหวังอยู่ในระดับมากไม่มีความแตกต่างกันแต่ในระดับตัวชี้วัดมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) รูปแบบภาวะผู้เชิงกลยุทธ์สู่องค์กรคุณภาพวิถีใหม่ของผู้บริหารสถานศึกษาประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ 13 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ (1) ความสามารถในการวางแผนกลยุทธ์ 3 ตัวบ่งชี้ (2) ความสามารถในการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ 3 ตัวบ่งชี้ (3) ความสามารถในการควบคุมและประเมินกลยุทธ์ 3 ตัวบ่งชี้ และ (4) องค์กรคุณภาพวิถีใหม่ 4 ตัวบ่งชี้ อยู่ในระดับมากที่สุด และ 3) ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน พบว่า โมเดลรูปแบบภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์สู่องค์กรคุณภาพวิถีใหม่ของผู้บริหารสถานศึกษา มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (Chi-Square=207.12, df=200, P-Value=0.35, /df=1.04, CFI=0.97, TLI=0.94, RMSEA=0.04) โดยมีค่าสัมประสิทธิ์พยากรณ์ ดังนี้ ความสามารถในการวางแผนกลยุทธ์ (0.946) ความสามารถในการควบคุมและประเมินกลยุทธ์ (0.881) ความสามารถในการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ (0.795) และด้านองค์กรคุณภาพวิถีใหม่ (0.678) มีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจยวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจยวิชาการก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
เชวงศักดิ์ พฤกษเทเวศ. (2553). การพัฒนาตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
เนตรพัณณา ยาวิราช. (2552). ภาวะผู้นำและผู้นำเชิงกลยุทธ์. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ : ทริปเพิ้ล กรุ๊ป.
ฏิมากร บุ้นกี้. (2563). การศึกษาบทบาทภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
ณษฐ์ ชาญประเสริฐ. (2555). แนวทางการใช้ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารโรงเรียนเอกชนในเขตอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
นันทรัตน์ เจริญกุล. (2564). การบริหารนโยบายและกลยุทธ์การศึกษา. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พูลพงศ์ สุขสว่าง. (2563). โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural equation modeling). (พิมพ์ครั้งที่ 3). ชลบุรี : เอ.พี.บลู ปริ้นท์.
วรัญญภรณ์ ชาลีรักษ์. (2564). การพัฒนารูปแบบติดตามและประเมินการดำเนินงานตามนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ. เข้าถึงได้จาก http://www.thaiedresearch.org/home/paperview/2415/?
สมยศ นาวีการ. (2544). การบริหารงานบุคคล. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : บรรณกิจเทรดดิ้ง.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2. (2563). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานระยะ3ปี 2563-2565. (อัดสำเนา).
สุภมาส อังศุโชติ และคณะ. (2552). สถิติวิเคราะห์สำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์เทคนิคการใช้โปรแกรม LISREL. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : เจริญดี มั่นคงการพิมพ์.
สุวิทย์ ครึกกระโทก. (2554). ความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ของผู้บริหารสถานศึกษาที่มีผลลัพธ์ทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 23(1), 216-229.
Adair, J. (2002). Effective Strategic Leadership. London : Pan Macmillan.
Dess, G. G. & Miller, A. (1993). Strategic Management. New York : McGraw-Hill.
Dess, G. G., Ireland, R. D. & Hitt, M. A. (1990). Industry effects and strategic management research. Journal of Management, 16(1) 7–27.
DuBrin, A.J. (1998). Leadership : Research Findings, Practice, and Skills. (7th Edition). Boston : Houghton Mifflin.
Eisner, E. (1976). Education Connoisseiship and Criticism: Their Form and Function in Education Evaluation. The Journal of Aesthetic Education, 10(3/4), 135-150.
Hair, J. F., et al (2010). Multivariate Data Analysis. (7th Edition). New York : Pearson.
Hitt, M. A., et al. (2005). Strategic Management Competitiveness and Globalization Concepts and Cases. (4th edition). Retrieved from https://faculty.cengage.com/works/9780357716762?q=contents
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Matthew, L. (2012). A Guido to Effective School Leadership Theories. New. York : Refine Catch Limited, Bungay, Suffolk.
Nahavandi, A. & Malekzadeh, A.R. (1993). Organizational culture in the management of mergers. Westport : Quorum Books.
Tabachnick, B.G. & Fidell, L. S. (2007). Using Multivariate Statistics. (5th ed.). New York : Allyn and Bacon.
Wheaton, B., Muthen, B., Alwin, D. F. & Summers, G. (1977). Assessing Reliability and Stability in Panel Models. Sociological Methodology, 8, 84-136.