การศึกษาอัตลักษณ์ความเป็นจีนที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคมไทย : กรณีศึกษา ครูชาวไทยในโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจอัตลักษณ์ความเป็นจีนที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคมไทย กรณีศึกษาครูชาวไทยในโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจที่ศึกษาครูชาวไทยในโรงเรียนจำนวน 61 คน ด้วยเครื่องมือ คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลจากค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และข้อมูลจากการสัมภาษณ์ทั้งแบบไม่เป็นทางการและแบบเจาะลึก นำเสนอผลการวิจัยเชิงพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า จากอัตลักษณ์ความเป็นจีน 5 ด้าน ครูชาวไทยทั้งที่มีและไม่มีเชื้อสายจีนมองว่าอัตลักษณ์ด้านวิถีปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ( = 3.67, S.D. = 1.08) ยังมีความสำคัญอยู่มาก เพราะแฝงคุณธรรมของคนจีนอย่างเด่นชัด ด้านการธำรงรักษาไว้ซึ่งประเพณีและวัฒนธรรมจีน (
= 3.39, S.D. = 1.29) ด้านพิธีกรรมที่เกี่ยวกับชีวิต (
= 3.14, S.D. = 1.30) และด้านสายสัมพันธ์และสำนึกในวงศ์ตระกูล (
= 3.00, S.D. = 1.34) มีความสำคัญระดับปานกลาง แต่โดดเด่นเรื่องความกตัญญู ส่วนด้านค่านิยมที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ (
= 2.71, S.D. = 1.26) แม้จะมีความสำคัญปานกลางแต่ค่าเฉลี่ยต่ำกว่าทุกด้าน เพราะเผชิญกับการต่อรองจากประเด็นทางสังคมและการเปลี่ยนแนวคิดของคนต่างรุ่นมากที่สุด ปัจจัยที่ทำให้ทุกอัตลักษณ์มีรูปแบบเปลี่ยนแปลงไปจากขนบ คือ อุปสรรคของการสืบทอด ปรากฏการณ์ทางสังคม การศึกษาสมัยใหม่ สภาพเศรษฐกิจ ความเท่าเทียมระหว่างชายหญิง ความหลากหลายทางเพศ การเปิดรับวัฒนธรรมต่างชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลืนกลายทางวัฒนธรรม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจยวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจยวิชาการก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กุลศิริ อรุณภาคย์. (2553). ศาลเจ้า ศาลจีน ในกรุงเทพฯ. กรุงเทพฯ : มิวเซียมเพรส.
เกษม ปราณีธยาศัย. (2544). ผู้ชายในครอบครัวจีน กรณีศึกษา : ครอบครัวคนจีนแต้จิ๋วในตำบลมหาชัย. (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชามานุษยวิทยา). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เกษียร เตชะพีระ. (2537). แลลอดลายมังกร รวมข้อเขียนว่าด้วยความเป็นจีนในสยาม. กรุงเทพฯ : คบไฟ.
ชญานิษฐ์ เชิดธรรมธร. (2563). ทำไมลูกหลานจีนในประเทศไทยไม่พูดภาษาจีนเหมือนประเทศอื่น. เข้าถึงได้จาก https://www.klangpanya.in.th/tag/chayanit-choe
นิโลบล วงศ์ภัทรนนท์. (2564). จากลอดลายมังกร สู่เลือดข้นคนจาง : การนำเสนออัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมความเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนในละครโทรทัศน์ไทย. วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 29(2), 76-103.
พิชณี สวัสดิ์ตยวงศ์. (2546). อนาคตภาษาจีนในประเทศไทย. ใน การประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 41 : สาขาศึกษาศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์ สาขาบริหารธุรกิจ สาขาคหกรรมศาสตร์ สาขามนุษยศาสตร์ (น. 425-431). กรุงเทพฯ : คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
พิณวิไล ปริปุณณะ. (2555). การปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์ของคนจีนในไทย : กรณีศึกษาตัวละครคนจีนอพยพในนวนิยายเรื่องลอดลายมังกร. (การค้นคว้าอิสระ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาและการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เพ็ญนภา หมอนสอาด, (2550). ภาพลักษณ์ของคนจีนในเมืองไทยที่ปรากฏในนวนิยายไทย พ.ศ. 2512-2533. (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์). บัณฑิตวิทยาลัย : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ภัทรกร สุวรรณจินดา และหลี่ เหรินเหลียง. (2559). การปรับตัวทางวัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีน : กรณีศึกษาคนไทยเชื้อสายจีน ย่านเยาวราช. ใน รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับชาติ การบริหารการพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร ประจำปี 2559 (น. 323-335). กรุงเทพฯ : สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
เรือนแก้ว ภัทรานุประวัติ. (2558). การสืบทอดความเป็นจีนผ่านการทำความเข้าใจในความหมายและสัญลักษณ์ทางศาสนาของชาวจีนสู่ลูกหลานในสังคมไทย. วารสารอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 37(1), 180-213.
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2563). หลักสูตรโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ฉบับปรับปรุง. ปทุมธานี : คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
วรศักดิ์ มหัทธโนบล. (2561). มองวัฒนธรรมจีนผ่าน “เลือดข้นคนจาง”. เข้าถึงได้จาก https://www.chula.ac.th/cuinside/13320/
วันจรัตน์ เดชวิลัย และนาฏกานต์ ดิลท์ส. (2566). การมีปฏิสัมพันธ์กับการสร้างอัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายจีนในภูเก็ต. วารสารวิชาการนอร์ทเทิร์น มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น, 10(1), 83-99.
สกลกานต์ อินทร์ไทร. (2539). การสื่อสารกับการสร้างอัตลักษณ์ของกลุ่มเด็กปั๊มในกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชามานุษยวิทยา). บัณฑิตวิทยาลัย : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุธี จันทร์ศรี และสมทรง บุรุษพัฒน์. (2560). ไทดำ : พลวัตวัฒนธรรม กับการธำรงอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ผ่านดนตรี. เข้าถึงได้จาก http://identity.bsru.ac.th/ archives/3859
อภิญญา เฟื่องฟูสกุล. (2556). อัตลักษณ์. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing. (5th ed). New York : Harper Collins. Publishers.
Gagne, M. & Deci, E. L. (2005). Self-determination theory and work motivation. Journal of Organizational Behavior, 26(4), 331-362.
Jenkins, R. (2004). Social Identity. New York : Roughtledge.
Milton, J. E. (2004). An Introduction to Ethnic Conflict. Oxford : Polity.
Rovinelli, R. J. & Hambleton, R. K. (1997). On the Use of Content Specialists in the Assessment of Criterion Referenced Test Item Validity. Dutch Journal of Education Research, 2, 49-60.
Woodward, K. (2004). Questioning Identity: Gender, Class, Ethnicity. London : Routledge.
Yin Saijiao และภารดี มหาขันธ์. (2560). ความเชื่อเรื่องปีชงของชาวไทยเชื้อสายจีนในเขตเทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี. วารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 25(48), 129-150.