องค์ประกอบการนิเทศภายในโรงเรียนทางอ้อม
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบการนิเทศภายในทางอ้อม พบว่า การนิเทศภายในโรงเรียนทางอ้อม เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญต่อการส่งเสริมและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการควบคุมหรือการกำกับโดยตรงจากผู้บริหารสถานศึกษา ในกระบวนการนี้มีองค์ประกอบหลักที่สำคัญ 5 ขั้นตอนได้แก่ 1) การประเมินความต้องการ เป็นขั้นตอนแรกในการนิเทศภายในทางอ้อม ซึ่งมีบทบาทในการระบุและวิเคราะห์ความต้องการของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อกำหนดแนวทางในการพัฒนาและการปรับปรุงที่เหมาะสม 2) การวางแผนและการวิเคราะห์ เป็นกระบวนการที่ใช้ข้อมูลจากการประเมินความต้องการเพื่อจัดทำแผนงานที่ชัดเจนและมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาการวางแผนอย่างมีระบบจะช่วยให้กระบวนการนิเทศมีความเป็นระเบียบและมีทิศทางที่ชัดเจน 3) การดำเนินการ คือ การนำแผนงานที่ได้วางไว้มาปฏิบัติในโรงเรียน การดำเนินการที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้การพัฒนาครูและบุคลากรเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด 4) การประเมินผล เป็นกระบวนการที่ใช้เพื่อวัดและตรวจสอบความสำเร็จของการนิเทศ การประเมินผลช่วยให้สามารถวิเคราะห์ผลลัพธ์และระบุจุดที่ต้องปรับปรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 5) การปรับปรุงและการรายงาน เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงกระบวนการนิเทศตามข้อเสนอแนะ จากการประเมินผลเพื่อให้การนิเทศมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ องค์ประกอบของการนิเทศภายในทางอ้อมยังได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยเสริมอื่น ๆ เช่นการสนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ การใช้เทคโนโลยีในการนิเทศ การสื่อสารและการบริหารจัดการในยุคดิจิทัล และการสร้างแรงจูงใจและการส่งเสริมการคิด ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของการนิเทศภายในทางอ้อมในบริบทของการศึกษาในปัจจุบัน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจยวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจยวิชาการก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กฤษณะ ไกรสี และอัมพร สินทร. (2567). การนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษาแบบออนไลน์ในยุคดิจิทัล. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์, 12(3), 96-108.
ชมภ์พลอย จิตติแสง, สุนิสา วงศ์อารีย์, และพงษ์นิมิตร พงษ์ภิญโญ. (2567). ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการนิเทศภายในด้านการจัดการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุดรธานี. วารสารวิชาการและวิจัย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 14(2), 316-328.
นฤทัย ลา. (2567). ความต้องการจำเป็นของการนิเทศภายในของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. วารสาร มจร การพัฒนาสังคม, 9(2), 65-73.
บัญชา รัตนโสภา และทศพล ธีฆะพร. (2566). การบริหารการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อกระบวนการบริหารและการจัดการของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 42. วารสาร มจร. หริภุญชัยปริทรรศน์, 7(4), 66-82.
ปิยะพงษ์ ปัสสาวะโท. (2565). การดำเนินงานการนิเทศภายในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 1. วารสารชมรมบัณฑิตศิลป์, 2(2), 82-90.
พรพิมล ฤทธิ์เลิศชัย. (2565). การสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเอกชน. วารสารนวัตกรรมการบริหารการศึกษา, 1(2), 1-10.
ลัดดาพร ศรีทองสุข. (2565ก). การบูรณาการทฤษฎีระบบในการนิเทศภายในทางอ้อม. วารสารการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, 8(2), 45–57.
ลัดดาพร ศรีทองสุข. (2565ข). การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนสระพังวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ. วารสารครุศาสตร์ปัญญา, 1(2), 47-60.
ศศิรดา พันชัยภู, ภาณุพงศ์ บุญรมย์ และชวนคิด มะเสนะ. (2022). รูปแบบการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการนิเทศภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 10(4), 1639-1653.
สมชาย นิลสุข. (2560). แนวคิดการนิเทศภายในเชิงสร้างสรรค์: ทางเลือกใหม่ของการพัฒนาครู. วารสารวิจัยทางการศึกษา, 13(2), 45-53.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). คู่มือแนวทางการนิเทศภายในสถานศึกษา. (อัดสำเนา)
สุทธิพร มิตศิลปิน. (2561). ภาวะผู้นำเชิงวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนวัฒนธรรมองค์การของโรงเรียนที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดฉะเชิงเทรา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ, 18(1), 191–201.
อติกานต์ กล้าหาญ และรอง ปัญสังกา. (2565). การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน. วารสารวิจัย มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 9(1), 247-260.
Bandura, A. (2001). Social cognitive theory: An agentic perspective. Annual Review of Psychology, 52(1), 1–26.
Bolden, R. (2011). Distributed leadership in organizations: A review of theory and research. International Journal of Management Reviews, 13(3), 251–269.
Farnsworth, V., Kleanthous, I. & Wenger-Trayner, E. (2016). Communities of practice as a social theory of learning: A conversation with Etienne Wenger. British
Journal of Educational Studies, 64(2), 139-160.
Glickman, C. D., Gordon, S. P. & Ross-Gordon, J. M. (2018). Super Vision and instructional leadership: A developmental approach. (10th ed.). New York : Pearson.
Hardhienata, S., Suchyadi, Y. & Wulandari, D. (2021). Strengthening Technological Literacy in Junior High School Teachers in the Industrial Revolution Era 4.0. Journal of Humanities and Social Studies), 5(3), 330–335.
Hatch, M. J. & Zilber, T. B. (2012). Conversation at the border between organizational culture theory and institutional theory. Journal of Management Inquiry, 21(1), 94–97.
Hoy, W. K. & Miskel, C. G. (2012). Educational administration: Theory, research, and practice. (9th ed.). New York : McGraw-Hill Higher Education.
Knowles, M. S., Holton III, E. F. & Swanson, R. A. (2020). The adult learner: The definitive classic in adult education and human resource development. (9th ed.). Routledge : Taylor & Francis Group.
Korejan, M. M., & Shahbazi, H. (2016). An Analysis of the Transformational Leadership Theory. Journal of Fundamental and Applied Sciences, 8(3), 452-461.
Kuhn, D., Black, J., Keselman, A. & Kaplan, D. (2000). The development of cognitive skills to support inquiry learning. Cognition and Instruction, 18(4), 495–523.