กลยุทธ์การบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรมในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรม 2) พัฒนากลยุทธ์การบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรม และ 3) ประเมินกลยุทธ์การบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรมในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ครูหัวหน้าวิชาการ ครูผู้สอน จำนวนทั้งสิ้น 262 คน ได้มาโดยการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างตามระดับชั้นอย่างเป็นสัดส่วนเครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรม และแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ขั้นตอนที่ 2 พัฒนากลยุทธ์การบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรมและตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน ด้วยวิธีการประชุมเชิงปฏิบัติการ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามความเห็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีต่อร่างกลยุทธ์ และขั้นตอนที่ 3 ประเมินกลยุทธ์การบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรม โดยผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 46 คน โดยเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบประเมินมีค่าความเชื่อมั่น .92 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) การบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรม มีสภาพปัจจุบัน โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนสภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) กลยุทธ์ การบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรม ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลัก 8 กลยุทธ์รอง 32 วิธีดำเนินการ และ 3) กลยุทธ์การบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรมเป็นกลยุทธ์ มีความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิจยวิชาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิจยวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อการกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารวิจยวิชาการก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561. เข้าถึงได้จาก https:// qa.vru.ac.th/pdf/2560/ใช้ลง%20Diary%20สกศ.(06-12-61).pdf
ธัญณิชา ขันตี และถวิล ลดาวัลย์.(2562). กลยุทธ์การบริหารงานวิชาการแบบมีส่วนร่วมในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ, 7(25), 255-262.
ลิขิต เวทย์อุดม. (2564). กลยุทธ์การบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 13(2), 403-414.
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมการศึกษา. (2563). รายงานการวิเคราะห์ระบบนวัตกรรมไทย. เข้าถึงได้จาก http://www.ste.or.th
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). รายงานสถานการณ์การศึกษาของประเทศไทย 2560. เข้าถึงได้จาก http://www.onec.go.th
อมรรัตน์ ศรีพอ.(2561). กลยุทธ์การบริหารวิชาการโรงเรียนมัธยมศึกษาเอกชนตามแนวคิด ทักษะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา). คณะครุศาสตร์ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.