การพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษโดยใช้กลวิธีสตาร์ท สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษของชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้กลวิธีสตาร์ท กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 32 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านปากน้ำ (เผดิมจีนนาวาสงเคราะห์) ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่าง อย่างง่าย โดยใช้วิธีการจับสลาก ระยะเวลาที่ใช้ ในการวิจัย จำนวน 10 ชั่วโมง แบบแผนการวิจัย เป็นแบบกลุ่มเดี่ยว สอบก่อนเรียนและหลังเรียน เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยครั้งนี้คือ 1) แผนการจัดการ เรียนรู้การพัฒนา การอ่านจับใจความ ภาษาอังกฤษโดยใช้กลวิธีสตาร์ท ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้กลวิธีสตาร์ท ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า Dependent t-test ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่ได้รับ การพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดยใช้กลวิธีสตาร์ทหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.
จันทรรัตน์ จาดแห. (2565). การพัฒนาหลักสูตรส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้กลวิธีการสอนแบบดี อาร์ ที เอ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์, 8(1), หน้า 154-165.
จารุวรรณ วงษ์แก้ว. (2563). “การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือผ่านบทอ่านข้อมูลท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6”. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา หลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ธรรณปพร หงษ์ทอง และปาณิสรา เบี้ยมุกดา. (2565). การเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะภาษาไทยและความสามารถของเยาวชนไทยยุคใหม่ในการเป็นพลเมืองยุคดิจิตอล. วารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร, 5(2), หน้า 187-197.
ทิศนา แขมมณี และคณะ. (2544). วิทยาการด้านการคิด. กรุงเทพฯ: บริษัทเดอะมาสเตอร์กรุ๊ปแมเนจเม้นท์ จำกัด
นพพร สโรบล. (2557). ภาษาอังกฤษกับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน. สืบค้นเมื่อ 9 พฤษภาคม 2565 จาก http://www.polsci.tu.ac.th /fileupload/39/56.pdf
นิตยภัทร์ ธาราสุข. (2557). “การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ โดยใช้กลวิธี สตาร์ท (start) และแผนภูมิความหมายสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดไทร (สินศึกษาลัย)”. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เบญจวรรณ พูลบางยุง. (2564). “ผลการใช้กลวิธีสตาร์ท (START) ในการอ่านภาษาอังกฤษ อย่างมีวิจารณญาณสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2”. การศึกษาค้นคว้าอิสระ สาขาวิชาการ สอนภาษาอังกฤษ. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
พิมพ์ผกา ประเสริฐสวัสดิ์ และยุพิน ยืนยง. (2564). การพัฒนาความสามารถ ในการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษและการศึกษาพฤติกรรม การอ่านภาษาอังกฤษ ด้วยการจัดการเรียนรู้การอ่านแบบ SQ3R สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, 36(2), หน้า 191-206
ฤทัยรัตน์ ลอยเจริญ และบัญญัติ ชำนาญกิจ. (2557). การใช้ยุทธวิธีเมตาคอกนิชันในการสอน อ่านภาษาไทย. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์. 9(26), หน้า 1-12
สรเดช บุญประดิษฐ์. (2564). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะ การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 โดยใช้การสอนทักษะการอ่านแบบแผนภูมิ ความหมาย และการสอนทักษะการอ่านแบบ SQ4R. วารสารการวัดผลการศึกษา, 38(103): 54-69.
Rohdearni Wati Sipayung. (2019). Improving the Students’ Ability in Reading Comprehension by Using Cooperative Integrated Reading Composition. Indonesia. Simalungun University.