แรงจูงใจในการเป็นพระสงฆ์จิตอาสาในอำเภออรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ คือ 1) เพื่อศึกษาลักษณะองค์ประกอบของแรงจูงใจในการเป็นพระสงฆ์จิตอาสาในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว 2) เพื่อศึกษาแนวทางการสร้างแรงจูงใจการเป็นพระสงฆ์จิตอาสาในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และ 3) เพื่อเสนอนำเสนอรูปแบบการสร้างแรงจูงใจในการเป็นพระสงฆ์จิตอาสา โดยการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง คือ กลุ่มพระสงฆ์จิตอาสาที่จำพรรษาและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในอำเภออรัญปรเทศ จังหวัดสระแก้ว อย่างน้อย 3 ปี จำนวน 12 รูป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ คำถามสัมภาษณ์เชิงลึกแบบมีโครงสร้าง และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) องค์ประกอบของแรงจูงใจ มี 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยภายในอันได้แก่ มีจิตลักษณะเป็นผู้ให้ มีความต้องการออกมาทำงานเพื่อสังคม เสียสละช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจโดยไม่หวังผลตอบแทน และปัจจัยภายนอก อันได้แก่ กรอบและนโยบายของพระสงฆ์ สภาพสังคม และแบบอย่างที่ดีงาน 2) แนวทางในการสร้างแรงจูงใจ คือการพัฒนาด้านความรู้คิด การปรับตัวเข้ากับสถานณ์ต่างด้วยการกระตุ้นให้มีส่วนร่วม มีหลักพุทธธรรมที่สนับสนุนคุณลักษณะจิตอาสา อันได้แก่ อิทธิบาท 4 พรหมวิหาร 4 และสังคหวัตถุ 4 และ 3)รูปแบบการทำงานด้านจิตอาสาอย่างมีระบบ คือ กำหนดเป้าหมาย มีทัศนคติที่ดี ลงมือปฏิบัติทันที การสร้างเครือข่าย และพัฒนางานที่ทำอย่างต่อเนื่อง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
ข้อความที่ปรากฎอยู่ในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความ และข้อคิดเห็นนั้นไม่ถือว่าเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารวิชาการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เอกสารอ้างอิง
กัญจิรา วิจิตรวัชรารักษ์ และคณะ. (2564). การส่งเสริมเครือข่ายจิตอาสาของพระสงฆ์ เขตภาคกลางตอนล่างในประเทศไทย. วารสารสังคมศาษสตรและมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(7): 351-365.
กัลป์ยกร ลาภเดโช และสมบูรณ์ สุขสำราญ. (2565) บทบาทพระสงฆ์กับการพัฒนาสังคมไทย. วารสารมณีเชษฐาราม วัดจอมมณี, 5(1): 2-14.
คณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม. (2562). คู่มือการปฏิบัติงานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม(2562). สืบค้นข้อมูลเมื่อ 25 ตุลาคม 2565 จากhttps://issuu.com/penkiatsitthisit/docs/7fdcd55cbe71d2
ชมัยพร พึ่งม้าย. (2562). อิทธิพลของการได้รับการอบรมเลี้ยงดู ทัศนคติ การรับข่าวสาร และแรงจูงใจ ที่มีต่อพฤติกรรมจิตสาธารณะของผู้ที่อยู่ในวัยทำงานในกรุงเทพมหานคร.วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (สถิติประยุกต์). สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ คณะสถิติประยุกต์.
พระครูประโชติพัชรพงศ์ (นัฐพงษ์ วิสุทฺโธ) และคณะ. (2564). แนวทางการเสริมสร้างบทบาทพระคิลานุปัฏฐาก ในการเสริมสร้างสุขภาวะของพระสงฆ์ไทย. Journal of Modern Learning Development, 6(5): 119-126.
พระจเร ธมฺมจิตโต (จันทร์บาง) และมานพ นักการเรียน. (2564). การส่งเสริมจิตอาสาตามหลักของพระโพธิสัตว์.วารสารมหาจุฬาวิชาการ, 8(1): 72-83.
พระมาหาอุเทน โพธิ์ศรีประเสริฐ และคณะ. (2564). องค์ประกอบของการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฎิบัติงานของครูโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา. วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 10(1): 204-215.
พระอธิการณัฐพล ปญฺญาวุฑฺโต (สมยา) และคณะ. (2564). จิตอาสาและรูปแบบการัฒนาของพระคิลานุปัฏฐากพระสงฆ์อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง. วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 10(1): 33-45.
พินิจ ลาภธนานนท์. (2526). อดีต ปัจจุบัน และอนาคตงานสาธารณสงเคราะห์วิธีพุทธของคณะสงฆ์ไทย. นนทบุรี: นิติธรรมการพิมพ์.
พิไลวรรณ บุญล้น และคณะ. (2564). แรงจูงใจการทำงานจิตอาสาตามหลักพุทธจิตวิทยาของบุคคลหลากหลายอาชีพในสังคมไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบันฑิต. คณะมนุษยศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
เพริศพรรณ แดนศิลป์ และคณะ. (2563). การเปลี่ยนแปลงมิติภายในของพระสงฆ์กลุ่มอาสาคิลานธรรมภายหลังเข้าร่วมหลักสูตรการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแนวพุทธและในระยะติดตามผลการปฏิบัติงานต่อผู้ป่วยระยะสุดท้าย. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 43(1): 15-29.
สำนักข่าวไทยโพสต์. (2565). วธ.ร่วมตั้งโรงทานสู้พิษโควิดตามพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช. สืบค้นข้อมูลเมื่อ 20 ตุลาคม 2565 จาก https://www.thaipost.net/main/detail/61500