การพัฒนาระบบบริหารจัดการการประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับหลักสูตรสำหรับมหาวิทยาลัยของรัฐ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสื่อคลิปวีดีโอรณรงค์การบริจาคหนังสือที่ใช้ดนตรีประกอบอะคูสติก และแจ๊ส เพื่อเปรียบเทียบผลความดึงดูดใจต่อคลิปวีดีโอรณรงค์การบริจาคหนังสือที่ใช้ดนตรีประกอบระหว่างอะคูสติก และแจ๊สกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จำนวน 100 คน เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัยประกอบด้วยสื่อคลิปวีดีโอรณรงค์การบริจาคหนังสือที่ใช้ดนตรีประกอบอะคูสติก และแจ๊ส และแบบสอบถามความดึงดูดใจที่มีต่อสื่อคลิปวีดีโอรณรงค์การบริจาคหนังสือที่ใช้ดนตรีประกอบอะคูสติก และแจ๊ส ข้อสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติ t-test

ผลการศึกษาพบว่าการใช้ดนตรีประกอบในคลิปวีดีโอรณรงค์การบริจาคหนังสือ ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเนื้อหา ด้านการออกแบบ ด้านการสื่อความหมาย และด้านเสียงประกอบ มีผลต่อความดึงดูดใจอยู่ในระดับมากเท่ากัน โดยเสียงดนตรีประกอบประเภทอะคูสติกและแจ๊สส่งผลต่อความดึงดูดใจของกลุ่มตัวอย่างใกล้เคียงกัน สรุปได้ว่าความดึงดูดใจของคลิปวีดีโอรณรงค์การบริจาคหนังสือที่ใช้ดนตรีประกอบอะคูสติก และแจ๊ส ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05