HEALTH RISK ASSESSMENT OF RESPIRATORY EXPOSURE TO FINE PARTICULATE MATTER (PM2.5) AMONG AKHA ETHNIC LABOR GROUPS IN CHIANG RAI PROVINCE

Main Article Content

Aree Choyae
Maneerat Suanmuang
Jutamas Muangmool
Butsaba Sa-ingkeaw
Phatanit Khamthan

Abstract

This study was aimed to investigate personal factors, knowledge regarding particulate matter PM2.5, the factors associated with such knowledge, as well as to assess the health risks from respiratory exposure to PM 2.5 among Akha ethnic laborers in Chiang Rai Province. Data were collected from 360 participants using a stratified sampling method based on the area proportions and then using simple random sampling. The data were gathered through questionnaires and PM 2.5 concentration levels obtained from the Air4Thai application of the Pollution Control Department. Descriptive statistics including frequency, percentage, mean, and standard deviation were used to analyze the data, while inferential statistics were analyzed using the Chi-Square test.


            The results of the study showed that most of the participants were female (58.30%) with an average age between 27–35 years (29.70%). Most respondents demonstrated
a moderate level of knowledge regarding PM2.5 (55.30%). Statistically significant factors associated with PM2.5 knowledge (p < 0.05) included age, educational level, and monitoring news issues related to PM2.5. The average PM2.5 concentration at 0.0761 mg/m³ with a standard deviation of 0.046 including the hazard quotient of 2.04 ± 1.15 could indicate a moderate health risk level. Therefore, it was recommended to promote knowledge about PM2.5 by considering factors in terms of age and educational level, encouraging those to monitor PM2.5 news as well as continuously being aware of respiratory symptoms among the local population.

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

Section
Research Articles

References

กรมควบคุมมลพิษ. (2568). รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในภาคเหนือประจำปี พ.ศ. 2567. สืบค้นจาก http://air4thai.pcd.go.th/webV3/#/Home

กฤษดา เพ็งอารีย์, พงศ์ธร แสงชูติ, ปรีชา พันธ์มูล, เนตรชนนี ดีนวลพะเนาว์, และปฐมยศ พงษ์ศิริ. (2564).

การประเมินความเสี่ยงและปริมาณการรับสัมผัสฝุ่นแบบแยกขนาดในร้านอาหารตามสั่งริมถนนแห่ง หนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา. วารสารวิชาการเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม, 8(1), 1–10.

โครงการหลวงวาวี. (2568). การประกอบอาชีพกลุ่มชาติพันธุ์. สืบค้นจาก https://www.hrdi.or.th/public/files/Areas-Profile/15-vav.pdf

ทัศน์พงษ์ ตันติปัญจพร, ณัฐกานต์ ศรีสกุลเตียว, และเบญจมาศ สุคันโท. (2562). การประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดเล็กทางการหายใจของพนักงานในโรงงานสีข้าวแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร. วารสารศรีนครินทร์เวชสาร, 34(5), 482–489.

บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล, พยงค์ วณิเกียรติ, อัมพร กรอบทอง, และกมล ไชยสิทธิ์. (2563). ผลต่อสุขภาพของฝุ่นละอองในอากาศขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน กลไกก่อให้เกิดโรค และการรักษาด้วยการแพทย์ทางเลือก. วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, 18(1), 178–202.

เบญจวรรณ พูนธนานิวัฒน์กุล, อรุณี ยันตรปกรณ์, ปาริชาติ จันทร์เที่ยง, เฉลิมชัย เพาะบุญ, นลินภัทร์ รตนวิบูลย์สุข, และธัญวพิสิทธิ์ วราธนโชติกุล.(2564). ปัจจัยมีที่มีอิทธิพลต่อระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อการดูแล สุขภาพของประชาชนในวันกลุ่มทำงาน. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 4(3), 187–203.

ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2560). เรื่อง ขีดจำกัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย. (3 มิถุนายน 2560). ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 134 ตอนพิเศษ 198ง, หน้า 34. สืบค้นจาก https://osh.labour.go.th/phocadownload/labour-under-law2554/chemical01-2560.pdf

รังสิมา โตสงวน, และอนนท์ วิสุทธิ์ธนานนท์. (2566). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับความรอบรู้ทางสุขภาพของผู้สูงอายุในชุมชนชนบท. วารสารวิจัยการพยาบาลและสุขภาพ, 24(1), 1–14.

เรณุกา ณปุณยฤกษ์, พรรณพชร ศรีกุลยนันทน์, ษุภากร เปรมปรีดิ์, ปวริศา เทพเสนา, ศศิชา โชติคุต, ปาณิสรา อิงคภาคย์, ณัฐพรรษ เนาว์แก้ว, ธรรมาภรณ์ พิมพ์ทอง, ปุญณิศา พงศ์ธนาพาณิช, ปานชีวา ประสงค์, อัญชิสา พงศ์ชัยศรีกุล, กรัญญู อ่อนนางาม, เขมิกา ศรีปานวงศ์, ปิญชาน์ ตันติศักดิ์, และศุจิมน มังคลรังษี. (2566). ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 และพฤติกรรมการป้องกันฝุ่น PM2.5 ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6. วารสารสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง, 8(2), 95–109.

วัชราภรณ์ วงศ์สกุลกาญจน์, และขวัญแข หนุนภักดี. (2566). การประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพค้าขายริมทางจากการรับสัมผัสฝุ่นละอองขนาดเล็กทางการหายใจ ในเขตตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี. วารสารสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 8(1), 14–24.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. (2567). สาเหตุสำคัญของ PM2.5. สืบค้นจาก https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/PM25-CIS3487-FB-25-04-2024.aspx

ศูนย์อนามัยกลุ่มชาติพันธุ์ชายขอบและแรงงานข้ามชาติ–กรมอนามัย, กรมอนามัย. (2566). ระบบสารสนเทศสนับสนุนด้านการส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อม กลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง. สืบค้นจาก https://hhdclampang.anamai.moph.go.th:8080/hhdcdashboard/ethnics/default/ethnic?area=ampur&ethnic=4&areacode=57

สุกัญญา พันธุ, กนิษฐา แก่นบุบผา, ณัฐนันท์ พลอยพรม, และศุษิระ บุตรดี. (2565). การประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการได้รับฝุ่น PM2.5 ในช่วงฤดูแล้งจากพื้นที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด จังหวัดระยอง. วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 14(19), 64–82.

สุจารี ดำศรี, และนฤมล ต๊ะใจ. (2567). ความสัมพันธ์ของปัจจัยด้านอุตุนิยมวิทยากับความเข้มข้นฝุ่นละออง PM2.5 จำแนกตามฤดูกาล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 19(3), 62–75.

อนุชา ดีสวัสดิ์. (2566). ปัญหาฝุ่นพิษภาคเหนือของประเทศไทย. สืบค้นจาก https://library.parliament.go.th/th/radioscript/rr2566-apr4

Bloom, B. S. (1968). Taxonomy of Education Objectives. David McKay Company.

U.S. EPA. (1989). Risk Assessment Guidance for Superfund Volume I Human Health Evaluation Manual (Part A). Retrieved from https://www.epa.gov/sites/production/files/2015-09/documents/rags_a.pdf

Daniel, W. (1995). Biostatistics: A foundation for analysis in the health sciences. New York: John Wiley & Sons.